เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เร่งระบายน้ำในเขื่อนเพื่อรองรับฝนตกหนักในช่วง 30 ก.ย.-2 ต.ค.
เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เร่งระบายน้ำในเขื่อนเพื่อรองรับฝนตกหนักในช่วง 30 ก.ย.-2 ต.ค.
เนื่องจากมีการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนบนช่วงวันที่ 30 กันยายนถึง 2 ตุลาคมนี้ จึงมีการประเมินว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าตัวเขื่อนในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม อาจทำให้น้ำล้นอิเมอเจนซี่สปิลเวย์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
โดยในช่วง 6 วัน ที่ผ่านมาเขื่อนแม่งัดรับน้ำไว้ 91 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อปริมาณน้ำปิงลดลง จึงได้มีการวางแผนการระบายน้ำ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน และจะหยุดการระบายในวันนี้(30 ก.ย.) เวลา 17:00 น. ซึ่งเป็นการระบายน้ำแบบอาศัยช่วงเวลา จึงไม่ส่งผลกระทบกับตัวเมืองเชียงใหม่
นายเฉลิมเกียรติ อินทกนก ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล เปิดเผยถึงการระบายน้ำในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ว่า เนื่องจากมีการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำปิงตอนบนช่วงวันที่ 30 กันยายนถึง 2 ตุลาคมนี้ จึงมีการประเมินว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าตัวเขื่อนในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม อาจทำให้น้ำล้นอิเมอเจนซี่สปิลเวย์ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ น้ำที่เข้ามาจะล้นออกหมด ช่วง 10 วันที่ผ่านมา เขื่อนแม่งัดได้มีการปิดการระบายไว้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับลำน้ำปิงกับลำน้ำแม่แตง โดยในช่วง 6 วัน ที่ผ่านมาเขื่อนแม่งัดรับน้ำไว้ 91 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อปริมาณน้ำปิงลดลง จึงได้มีการวางแผนการระบายน้ำ เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน และจะหยุดการระบายในวันนี้(30 ก.ย.) เวลา 17:00 น. ซึ่งเป็นการระบายน้ำแบบอาศัยช่วงเวลา จึงไม่ส่งผลกระทบกับตัวเมืองเชียงใหม่ โดยการระบายน้ำวันนี้จะเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง ปริมาณน้ำจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จะเดินทางไปถึงที่สถานี P1 และจากการคาดการณ์ของสำนักงานชลประทานที่ 1 ปริมาณน้ำจะไหลมาถึงสถานี p1 จะอยู่ในช่วงเที่ยงคืนถึง 01:00 น. วันนี้ โดยสถานี P1 จะมีความสูงของน้ำอยู่ที่ 3.60 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 321 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
สำหรับการระบายน้ำวันนี้(30 ก.ย.) ก่อนปิดการระบาย เพื่อรองรับน้ำจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งปริมาณฝนที่ตกลงมาจะไม่เท่ากับอิทธิพลของยำความกดอากาศต่ำที่กำลังแรง เหมือนพายุซูลิคที่ผ่านมา เราสามารถรองรับได้ ยืนยัน เขื่อนมีความแข็งแรงปลอดภัยมีการติดตามความปลอดภัยของเขื่อนทุกวัน ส่วนตลอด 2 ฝั่งลำน้ำปิง กับลำน้ำงัด ลักษณะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ปลูกลำไย ปลูกพืชไร่ จะได้รับผลกระทบ 34 ชั่วโมงไม่มีผลกระทบให้เกิดความเสียหายกับต้นไม้ และพืช ขณะที่ชุมชนจะอยู่สูงกว่าพื้นที่ลุ่มต่ำประมาณ 2 เมตร แต่ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชน พร้อมย้ำจะไม่ทำให้น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่อย่างแน่นอน ทั้งนี้การระบายน้ำลำน้ำปิง กับลำน้ำงัด จะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนแน่นอน เป็นการระบายแบบหน่วงเวลา แต่หากมีฝนตกลงมาก็ออกมีน้ำท่วมขังบ้าง แต่ปริมาณน้ำจะอยู่ไม่นาน
ที่มา : t.ly/pUbqc