กรมบัญชีกลาง เพิ่มยาที่มีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับรักษามะเร็งปอดให้ข้าราชการเบิกได้ มีผล 1 พ.ย. 67 นี้
กรมบัญชีกลาง เพิ่มรายการยา Durvalumab ในโครงการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา (ระบบ OCPA) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ลงนามในหนังสือเรื่อง “ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง” ลงวันที่ 9 ต.ค. 2567 ถึง ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด เลขาธิการ อธิการบดี ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการสถานพยาบาล
สาระสำคัญของหนังสือดังกล่าว ระบุว่า กรมบัญชีกลางได้กำหนดหลักเกณฑ์เบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง และดำเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลตามความเหมาะสม จำเป็น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเพื่อให้มีการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นไปอย่างสมเหตุผล
ดังนั้น จึงเห็นสมควรดำเนินการเพิ่มรายการยา Durvalumab ในโครงการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา (ระบบ OCPA) เพื่อใช้รักษาโรคมะเร็งปอดชนิด Non-smell cell lung cancer ระยะที่ 3 ที่มี EGFR negative, ALK negative และ PD-L1 positive พร้อมกำหนดแนวทางกำกับการเบิกจ่ายค่ายาดังกล่าว
สำหรับในการใช้ยาดังกล่าว ทางสถานพยาบาลจะต้องลงทะเบียนแพทย์ผู้ทำการรักษา และผู้ป่วย ตามข้อกำหนดในระบบ OCPA เพื่อขออนุมัติเบิกค่ายา หรือขอต่ออายุการเบิกค่ายา หรือขอหยุดการใช้ยา ตามแนวทางที่หน่วยงานซึ่งได้รับมอบหมายจากกรมบัญชีกลางกำหนด โดยให้เบิกจ่ายค่ายาในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น รวมทั้งการใช้ยาดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขข้อบ่งชี้ที่กำหนด จึงจะสามารถเบิกจ่ายจากทางราชการได้
ส่วนกรณีที่สถานพยาบาลมีการออกใบเสร็จเงินค่ายา Durvalumab ให้ระบุชื่อรายการยา พร้อมทั้งระบุให้เป็นค่ายาที่เบิกไม่ได้ และไม่ให้ออกใบรับรองการสั่งใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยผู้มีสิทธิจะไม่สามารถนำใบเสร็จรับเงินค่ายาดังกล่าวทุกรูปแบบมายื่นเบิกเงินกับส่วนราชการต้นสังกัดได้
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2567 เป็นต้นไป
ที่มา : https://shorturl.asia/reQLk
