กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยการหักเงินเดือนเพื่อชำระเงินคืนกองทุนผ่านองค์กรนายจ้าง
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยการหักเงินเดือนเพื่อชำระเงินคืนกองทุนผ่านองค์กรนายจ้าง
ผู้กู้ยืมมีหน้าที่
- แจ้งสถานะการเป็นผู้กู้ยืมเงินให้นายจ้างทราบ ภายใน 30 วัน
- ให้นายจ้างหักเงินเดือน ตามจำนวนที่ กยศ. แจ้ง เพื่อชำระเงินคืนกองทุน
ขั้นตอนการแจ้งหักเงินเดือน
- กยศ.ตรวจสอบข้อมูลผู้กู้ยืม จากผู้ถือครองข้อมูลประกันสังคม/กรมบัญชีกลาง/กรมสรรพากร
- กยศ. ส่งหนังสือแจ้งผู้กู้ยืม ก่อนที่นายจ้างจะหักเงินเดือน
- กยศ. ส่งหนังสือแจ้งนายจ้างให้หักเงินเดือนผู้กู้ยืม
* การหักเงินเดือนจะเริ่มต่อเมื่อกองทุนได้แจ้งต่อนายจ้างอย่างเป็นทางการเท่านั้น
4. นายจ้างหักเงินเดือนนำส่งกรมสรรพากร
ลำดับการหักเงินเดือน
1. หักภาษี ณ ที่จ่าย
2. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/ประกันสังคม กฎหมายคุ้มครองแรงงาน
3. เงินกู้ยืมกองทุน กยศ.
* หากผู้กู้ยืมประสงค์ชำระเพิ่มเต็มบอกจากจำนวนเงินที่หักเงินเดือน สามารถชำระผ่านธนาคารและช่องทางอื่น ๆ ที่กองทุนกำหนด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เป็นหน่วยงานของรัฐอยู่ในกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปัจจุบันกองทุนได้มีพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 โดยสาระสำคัญของกฎหมาย ได้กำหนดให้องค์กรนายจ้างทั้งภาครัฐและเอกชน มีหน้าที่หักเงินได้ที่มาจากการจ้างแรงงานของพนักงานและลูกจ้างที่เป็นผู้กู้ยืมนำส่งกรมสรรพากร พร้อมกับการนำส่งภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่ายเพื่อชำระหนี้คืนกองทุน ซึ่งตามมาตรา 51 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ได้บัญญัติว่า ให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชนบรรดาที่มีลักษณะตามที่คณะกรรมการกำหนด มีหน้าที่หักเงินได้พึงประเมินของผู้กู้ยืมเงินซึ่งเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินดังกล่าว เพื่อชำระเงินกู้ยืมคืนตามจำนวนที่กองทุนแจ้งให้ทราบ โดยให้นำส่งกรมสรรพากรภายในกำหนดระยะเวลานำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
ขณะนี้กองทุนได้เริ่มส่งหนังสือแจ้งการชำระหนี้คืนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ด้วยวิธีการหักเงินเดือนถึงผู้กู้ยืม 3 กลุ่ม ได้แก่
1. ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ (ปกติ)
2. ผู้กู้ยืมที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความก่อนฟ้องคดี
3. ผู้กู้ยืมที่ทำสัญญาประนีประนอมความในศาล (พิพากษาตามยอม)

ที่มา : https://citly.me/96uqz
