AOC 1441 เตือนภัย “โจรออนไลน์” หลอกลงทุน-รับรางวัล ก่อนติดตั้งแอปดูดเงิน สูญกว่า 1 ล้านบาท
ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) เตือนภัย “โจรออนไลน์” หลอกลงทุน-รับรางวัล ก่อนติดตั้งแอปดูดเงิน สูญกว่า 1 ล้านบาท

นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 21-27 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้มีรายงานเคสตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง จำนวน 5 เคส ประกอบด้วย
คดีที่ 1 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่น ๆ มูลค่าความเสียหาย 213,500 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เครือข่าย DTAC แจ้งว่าหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหาย เป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลทองคำน้ำหนัก 5 บาท และได้มีการเพิ่มเพื่อนทาง Line เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนเพื่อยืนยันการรับรางวัลทางบริษัท โดยมีการสแกนใบหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เงียบหายไป ผู้เสียหายรู้สึกผิดปกติ จึงพยายามพิมพ์ข้อความติดต่อกลับไปแต่ไม่มีการตอบกลับ ต่อมาภายหลังได้เช็คยอดเงินในบัญชีของตนเอง พบว่ามีการโอนเงินออกไป ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 2 คดีหลอกลวงให้กู้เงิน มูลค่าความเสียหาย 101,115 บาท ผู้เสียหายพบโฆษณาสินเชื่อกู้เงินผ่านช่องทาง Tiktok ผู้เสียหายสนใจจึงทักไปสอบถามรายละเอียด จากนั้นได้เพิ่มเพื่อนทาง Line มิจฉาชีพแจ้งกับผู้เสียหายว่าให้โอนเงินค่าดำเนินการ และค่าประกันสินเชื่อก่อน แล้วรอการอนุมัติสินเชื่อ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงทำการโอนเงินไป ต่อมาภายหลังต้องการติดตามความคืบหน้าสินเชื่อ แต่ไม่ สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 3 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 258,831บาท ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านทางโทรศัพท์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง แจ้งว่าให้ผู้เสียหายยืนยันการคุ้มครองเงินบำนาญ หลังจากนั้นมิจฉาชีพได้ให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอน รวมถึงสแกน QR Code เพื่อยืนยันข้อมูลแล้วก็แจ้งว่าดำเนินการให้เรียบร้อย ต่อมาภายหลังผู้เสียหายจะชำระสินค้าโดยโอนเงินผ่าน Mobile Banking จึงพบว่ายอดเงินในบัญชีไม่เหลือ ได้ถูกโอนเงินออกไปจนหมด ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 4 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 406,000 บาท ทั้งนี้ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากทางมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนลงทุนหารายได้ พิเศษ เป็นการลงทุนซื้อขายออนไลน์สินค้าของใช้ทั่วไป โดยให้ตนโอนเงินลงทุนเข้าไปก่อน จึงจะได้รับกำไร เมื่อลงทุนในระยะแรกได้กำไรดี ตนจึงโอนเงินลงทุนเพิ่มสะสมเพื่อเป็นกำไร หวังผลในโอกาสถอนครั้งต่อไป ปรากฏว่าเมื่อต้องการถอนเงินแต่ไม่สามารถถอนได้ จากนั้น พยายามติดต่อปลายทางแต่ไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก
และคดีที่ 5 คดีหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน มูลค่าความเสียหาย 110,530 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ใช้โพร์ไฟล์เป็นหญิงสาว หน้าตาดีและได้เพิ่มเพื่อนทาง Line พูดคุยสนทนากันจนสนิทใจแต่ยังไม่เคยพบเจอกัน ต่อมามิจฉาชีพแจ้งกับผู้เสียหายว่าให้โอนเงินไปร่วมลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับรองเท้า เพื่อเป็นเงินในการสร้างอนาคตร่วมกัน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปหลายครั้ง ยอดเงินครั้งสุดท้ายเป็นเงินจำนวนสูงมากจนน่าสงสัย ผู้เสียหายจึงขอโทรวิดีโอคอล ฝ่ายหญิงปฏิเสธและทำการบล็อก ไม่สามารถติดต่อได้อีก ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกมิจฉาชีพหลอก
สำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้ง 5 คดี รวม 1,089,976 บาท
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของ ศูนย์ AOC 1441 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง วันที่ 25 ตุลาคม 2567 มีตัวเลขสถิติผลการดำเนินงานดังนี้
- 1. สายโทรเข้า 1441 จำนวน 1,159,5403 สาย / เฉลี่ยต่อวัน 3,221 สาย
- 2. ระงับบัญชีธนาคาร จำนวน 356,313 บัญชี / เฉลี่ยต่อวัน 1,120 บัญชี
- 3. ระงับบัญชีตามประเภทคดีสูงสุด 5 ประเภท ได้แก่
- (1) หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 105,6230 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 29.64
- (2) หลอกลวงหารายได้พิเศษ 87,535 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 24.58
- (3) หลอกลวงลงทุน 55,076 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 15.46
- (4) หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล 29,270 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 8.21
- (5) หลอกลวงให้กู้เงิน 27,880 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 7.82
- (และคดีอื่นๆ 50,929 บัญชี คิดเป็นร้อยละ 14.29)
“จากเคสตัวอย่างจะเห็นได้ว่า มิจฉาชีพใช้วิธีการหลอกลวงผู้เสียหาย ด้วยการอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ หรือหลอกลวงให้มีการกู้เงิน รวมทั้งหลอกลวงให้ลงทุนในธุรกิจ ด้วยวิธีการติดต่อโทร หรือผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok ก่อนที่จะให้สแกนใบหน้าผ่านแอปพลิเคชัน Line ทั้งนี้ขอย้ำว่า กรณีการลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีการรับรองโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ขณะเดียวกันกรณีที่อ้างมีการแอบอ้างให้บริการสินเชื่อ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความน่าเชื่อถือของบริษัที่ให้บริการ รวมทั้งการให้รางวัล หรือโอนเงินบำนาญ หรือการทำธุรกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ควรตรวจสอบจากหน่วยงานนั้นๆ โดยตรง และควรตระหนักเป็นอันดับแรกว่าการติดต่อโดยตรงจากเจ้าหน้าที่รัฐถึงประชาชน เป็นการติดต่อที่น่าสงสัย ดังนั้นขอให้สอบถามรายละเอียดให้แน่ชัดก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคล และการสแกนใบหน้า นอกจากนี้ควรตรวจสอบการลงทุนในธุรกิจต่างๆ อย่างรอบคอบ และติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด หรือติดต่อผ่านทางสายด่วน AOC 1441 เพื่อยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริง” นางสาววงศ์อะเคื้อ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยึดหลัก 4 ไม่ คือ 1. ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด และอัปโหลดแพลตฟอร์ม ที่มีการส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ โดย กระทรวง ดีอี ได้เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านศูนย์ AOC 1441 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
หากประชาชนโดนหลอกออนไลน์ โทรแจ้งดำเนินการ ระงับ อายัดบัญชี AOC 1441 แจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.) | Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
ที่มา : https://shorturl.asia/Ogkbr
