ภัยพิบัติป้องกันได้ : ภัยจากไฟป่าและหมอกควัน

ร่วมรณรงค์เฝ้าระวังไฟป่า
ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน ของทุกปี

ไฟป่า

ไฟป่า

       คือภัยธรรมชาติซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำาของมนุษย์ ได้แก่การเผาป่า เผาไร่เพื่อกำาจัดวัชพืช และมีส่วนน้อยที่เกิดจากการเสียดสีของต้นไม้แห้งและฟ้าผ่า ส่วนมากมักจะเกิดในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนพฤษภาคม ทำาให้เกิดมลพิษในอากาศมากขึ้น ผงฝุ่นและควันไฟกระจายไปในอากาศ ไม่สามารถลอยขึ้นเบื้องบนได้ทำาให้การมองเห็นไม่ชัดเจนและเกิดผลเสียต่อสุขภาพ พืชผลทางการเกษตรด้อยคุณภาพแหล่งทรัพยากรโดยเฉพาะป่าไม้ซึ่งมีอยู่ไม่มากในประเทศถูกทำาลายและเหลือน้อยลง

การเตรียมความพร้อมรับมือ

ก่อนเกิดไฟป่า

    1. ทำแนวกันไฟรอบที่อยู่อาศัยหรือชุมชน ด้วยการกำาจัดวัสดุที่เป็นเชื้อไฟ เช่น เศษหญ้าหรือวัชพืชแห้งเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง (ปลายเดือน ก.พ.- พ.ค.)
    2. เตรียมหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือในการดับไฟป่า
    3. จัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ช่วยในการดับไฟหรือระงับการลุกลามของไฟไว้ที่บ้านและในชุมชน ให้พร้อมและสะดวกต่อการใช้งาน

ขณะเกิดไฟป่า

    • เมื่อเกิดไฟไหม้ หรือไฟป่า ให้หลบหนีออกมาจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วที่สุดหากอยู่ในอาคารสูงอย่าใช้ลิฟท์
    • ให้ใช้บันไดหนีไฟ
    • ระวังอย่าสูดควันไฟและควรหลบให้พ้นจากสิ่งของติดไฟที่อาจหล่นลงมาทำาให้เกิดอันตราย หรือหากพอมีเวลาจะใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ
    • ปิดจมูกแล้วรีบหลบหนีออกมา
    • กรณีไฟป่าให้อพยพไปยังสถานที่หลบภัย หรือ สถานที่ปลอดภัย

ข้อควรจำ

    • ไฟป่าหากรีบดับโดยเร็วจะไม่ลุกลามอย่างกว้างขวาง ไฟป่าจะลุกลามตามทิศทางลม ไฟป่าสามารถลุกลามข้ามแนวกันไฟหรือข้ามถนนได้เมื่อมีเชื้อเพลิงจำนวนมากและมีลมแรง การดับไฟป่าจะมีประสิทธิภาพด้วยการตัดเส้นทางการลุกลามหรือตัดเชื้อเพลิง

แจ้งเหตุไฟป่า

  • พบเห็นไฟป่า หรือการกระทำที่ก่อให้เกิดไฟป่า
  • แจ้งสายด่วนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

หมอกควัน

หมอกควัน

       เป็นปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นเป็นประจำาทุกปีและทวีความรุนแรงมากขึ้นในภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย สาเหตุหลักเกิดจากไฟป่า ฝุ่นละอองจากถนน ควันจากภาคอุตสาหกรรม และเขม่าจากน้ำมันดีเซล ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง ประกอบกับสภาพภูมิประเทศซึ่งมีภูเขาล้อมรอบทำาให้มลพิษต่าง ๆ ถูกกักไว้และแผ่ปกคลุมทั่วเมือง ผลวิจัยพบปริมาณผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายเพิ่มขึ้นทุกปี

การเตรียมความพร้อมรับมือ

ก่อน เกิดปัญหาหมอกควัน

    1. ลด ละ เลิก หรือหลีกเลี่ยงการเผาหรือการทำากิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นควันเพิ่มขึ้น
    2. ให้ความรู้แก่ผู้อื่นว่าการก่อมลพิษทางอากาศทุกชนิดโดยเฉพาะการเผาบั่นทอนสุขภาพตัวเองและผู้อื่นและการเผาผิดกฎหมายอาญา มาตรา 220 อาจถูกปรับ ถึง 14,000 บาทจำคุกถึง 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
    3. ทุกคนมีส่วนร่วมในการเก็บใบไม้กิ่งไม้เพื่อทำปุ๋ยหมักแทนการเผา
    4.  ลดการสร้างขยะ แยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อลดปริมาณขยะที่มักเป็นสาเหตุของการเผา
    5. เจ้าของที่ดินดูแลที่ดินของตัวเอง มีการแผ้วถางและปลูกต้นไม้ เพื่อป้องกันมิให้มีการเผาเกิดขึ้น
    6. ปลูกต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มรวมทั้งไม้ในร่มเพิ่มมากขึ้น

ขณะเกิดปัญหาหมอกควัน

    1. ปิดประตูหน้าต่าง เพื่อมิให้มลพิษทางอากาศเข้ามาสะสมในอาคาร หากมีเครื่องฟอกอากาศให้เปิดใช้งาน
    2. ผู้สูงอายุซึ่งมักมีปัญหาโรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด รวมทั้งเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานยังไม่ดี เป็นกลุ่มเสี่ยงจึงควรงดออกไปทำากิจกรรมนอกอาคาร
    3. หากมีความจำเป็นต้องไปทำกิจกรรมนอกอาคารควรสวมหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่นละเอียดขนาดเล็กหรือใช้ผ้าชุบน้ำให้ชุ่ม หรือใช้ผ้าเช็ดหน้าทบหลายชั้นชุบน้ำให้ชุ่มแล้วปิดจมูก
    4. สวมแว่นตาเพื่อปกป้องดวงตาจากลมและหมอกควัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรสวมหมวกกันน็อค แบบมีหน้ากาก
    5. ใช้น้ำเกลือกลั้วคอเพื่อป้องกันอาการเจ็บคอ
    6. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วงที่มีหมอกควันมาก เพราะจะเป็นอันตรายต่อปอดมากกว่าเป็นผลดีต่อร่างกาย
    7.  ห้ามการเผาทุกชนิดโดยเด็ดขาด เพื่อมิให้ซ้ำเติมสภาพอากาศที่เลวร้ายอยู่แล้ว