โฆษกรัฐบาล ย้ำเกาะกูดเป็นของไทยตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส

โฆษกรัฐบาล ย้ำเกาะกูดเป็นของไทยตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส

          โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เสียงจากใจ ไทยคู่ฟ้า” ถึงประเด็นข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล โดยในปี 2499 มีการลงนามสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส เพื่อยืนยันสิทธิ์ของสยามเหนือเกาะกูด และเมืองตราดรวมถึงเกาะต่างๆ ภายใต้แหลมสิงห์ ลงมาจนถึงเกาะกูด ซึ่งสัญญาฉบับดังกล่าว ยังยืนยัน แลกมณฑลบูรพา ได้แก่ เมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ของสยามให้กับฝรั่งเศสและภายหลังกัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส เขตแดนระหว่างสยามกับฝรั่งเศส จึงเป็นกลายเป็นเขตแดนระหว่างไทย และกัมพูชาที่อ้างอิงตามเส้นเขตแดนตามสัญญาฉบับดังกล่าว ดังนั้น เกาะกูดจึงเป็นของไทยตลอดมา ไม่ได้เป็นพื้นที่ทับซ้อนให้ได้ถกเถียงกันในปัจจุบัน

 


        นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เสียงจากใจ ไทยคู่ฟ้า” ถึงประเด็นข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ว่า ในอดีตเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา มีการล่าอาณานิคมด้วยการเดินทางทางเรือ และเข้าสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคทั่วโลก และตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ร.ศ. 125 โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก มีการผนวกดินแดนที่เรียกว่าประเทศอินโดจีน ส่วนฝั่งตะวันตกมีการผนวกดินแดนที่เรียกว่าสหราชอาณาจักร หรือประเทศอังกฤษในปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยนั้นอยู่ตรงกลาง และเมื่อถูกประชิดติดชายแดนก็ต้องเจรจา ซึ่งในสมัยนั้นประเทศไทยได้เสียดินแดนฝั่งตะวันออกที่ใกล้กับจังหวัดสระแก้ว และต่อมาในปี 2499 มีการลงนามสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส เพื่อยืนยันสิทธิ์ของสยามเหนือเกาะกูด และเมืองตราด รวมถึงเกาะต่างๆ ภายใต้แหลมสิงห์ ลงมาจนถึงเกาะกูด ซึ่งสัญญาฉบับดังกล่าว ยังยืนยัน แลกมณฑลบูรพา ได้แก่ เมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ของสยามให้กับฝรั่งเศส และภายหลังกัมพูชาได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส เขตแดนระหว่างสยามกับฝรั่งเศส จึงเป็นกลายเป็นเขตแดนระหว่างไทย และกัมพูชา ที่อ้างอิงตามเส้นเขตแดนตามสัญญาฉบับดังกล่าว ดังนั้น เกาะกูดจึงเป็นของไทยตลอดมา ไม่ได้เป็นพื้นที่ทับซ้อนให้ได้ถกเถียงกันในปัจจุบัน



ที่มา : https://thainews.prd.go.th/thainews/news/view/678944/?bid=1