สำนักงานประกันสังคม ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างของบริษัท ฟูไน พร้อมจ่าย “กรณีว่างงาน”
สำนักงานประกันสังคม ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างของบริษัท ฟูไน (ไทยแลนด์) จำกัด พร้อมจ่าย “กรณีว่างงาน” ให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างทันที
จากกรณีที่บริษัท ฟูไน (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 835 หมู่ 18 บ้านซับม่วง ถนนสายปากช่อง -ลำสมพุง ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่ผลิตชิ้นส่วนวิทยุ โทรทัศน์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า และส่งไปยังบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น ประกาศปิดกิจการถาวร เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 จากเหตุสำนักงานใหญ่ ณ ประเทศญี่ปุ่น ประกาศล้มละลายต่อศาลที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้พนักงานในประเทศไทยทั้งหมด 831 คน ถูกเลิกจ้างนั้น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใย และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา ให้การดูแลช่วยเหลือลูกจ้างให้ได้รับสิทธิประโยชน์ถูกต้องตามกฎหมายโดยทันที
ด้าน นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า ตามข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ นั้น ได้มอบหมายให้ นางวณิชญา เกษแก้ว หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง ลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายอำเภอปากช่อง ผู้กำกับสถานีตำรวจอำเภอปากช่อง ร่วมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างของบริษัท ฟูไน (ไทยแลนด์) จำกัด และทำการสำรวจพบว่ามีจำนวนผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจากการล้มละลายของบริษัทฯ แม่ในประเทศญี่ปุ่น จำนวนกว่า 780 คน และยังมีผู้ประกันตนของบริษัท Subcontract อีก 3 แห่ง จำนวน 65 คน โดยสำนักงานประกันสังคมได้แจ้งสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนทราบ ดังนี้
1. รับเงินประโยชน์ทดแทนการว่างงาน กรณีถูกเลิกจ้าง ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 180 วัน
2. ให้คำแนะนำผู้ประกันตนยื่นขอรับเงินชราภาพ สำหรับผู้ประกันตนที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป
และจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง และสำนักงานจัดหางานและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา มีจำนวนผู้ยื่นขอรับสิทธิแล้วจำนวน 570 คน รวมเงินทดแทนฯ ทั้งในส่วนที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานกรณีเลิกจ้างและผู้มีสิทธิรับเงินทดแทนกรณีรับเงินทดแทนกรณีชราภาพ รวมเป็นเงินประมาณกว่า 30.9 ล้านบาท
ในการนี้ สำนักงานประกันสังคม ได้ชี้แจงเรื่องการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 โดยผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนในระหว่างการว่างงานร้อยละ 50 ระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน และยังคงได้รับความคุ้มครอง ฯ การเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพและตาย อีก 6 เดือน และหากไม่ประสงค์กลับเข้าเป็นผู้ประกันตน สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39 ภายใน 6 เดือนหลังสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างได้ โดยจะได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี ได้แก่ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตรและชราภาพ
ทั้งนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้คำแนะนำแก่ลูกจ้างเกี่ยวกับขั้นตอนการขอรับเงินว่างงาน กรณีถูกเลิกจ้าง พร้อมชี้แจงเอกสารประกอบที่จำเป็น อำนวยความสะดวกให้กับลูกจ้าง โดยให้ทางบริษัทฯ เป็นผู้รวบรวมเอกสารดังกล่าว
นางมารศรีฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกันตนว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมดำเนินการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้กับพนักงานที่มีสิทธิรับค่าทดแทนแต่ละกรณีภายหลังการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงแล้วเสร็จในทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องแรงงาน
ที่มา : https://citly.me/WsZVS