รัฐบาลไทย พร้อมลงนาม FTA ฉบับแรกกับ 4 ประเทศในยุโรป วันที่ 23 ม.ค.68 ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

รัฐบาลไทย พร้อมลงนาม FTA ฉบับแรกกับ 4 ประเทศในยุโรป วันที่ 23 ม.ค.68 ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

          รัฐบาลไทย ประสบความสำเร็จในการเจรจาทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ประกอบด้วย 4 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์, และลิกเตนสไตน์ โดยจะมีการลงนามในวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่การประชุม World Economic Forum ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์


 

 

          วันนี้ (19 มกราคม 2568) เวลา 10.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลประสบความสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) ที่จะมีการลงนามในวันที่ 23 มกราคมนี้ ในการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงดังกล่าว

          FTA ไทย – EFTA ถือเป็น FTA หรือข้อตกลงทางการค้า ฉบับแรกที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศในยุโรป ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ โดยถือเป็น FTA สมัยใหม่ที่มีข้อตกลงที่ครอบคลุมอย่างรอบด้าน มีมาตรฐานสูง สอดคล้องกับการพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะทำให้ปัจจุบัน ไทยมี FTA ทั้งหมด 16 ฉบับ กับ 23 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ

          ทั้งนี้ ไทยและ EFTA มีมูลค่าการค้าในช่วงเดือนมกราคม–พฤศจิกายน 2567 รวมกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 24.94 โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่

    1. อัญมณีและเครื่องประดับ
    2. นาฬิกาและส่วนประกอบ
    3. เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
    4. อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป
    5. เครื่องใช้สำหรับเดินทาง

          นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า “การเจรจาจัดทำ FTA จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้า ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุโรปที่มีมาตรฐานสูง ทั้งนี้ การเจรจา FTA ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ และการส่งออกของไทย สนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาค”


 

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/92539