กรมการค้าต่างประเทศ ลดอุปสรรคประกอบธุรกิจ เตรียมยกเลิกขออนุญาตนำเข้าหิน
กรมการค้าต่างประเทศ ประกาศยกเลิกกฎหมายนำเข้าหิน ไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศอีกต่อไป อำนวยความสะดวกทางการค้า และเป็นไปตามพันธกรณีความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) และความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA)
- โดยมีผลให้สินค้าหินที่อยู่ในข่ายควบคุม 4 กลุ่ม ไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าจากกรมการค้าต่างประเทศ ได้แก่
- หินอ่อน ทราเวอร์ทิน อีคอสซิน และหินอื่นๆ พิกัดศุลกากร 25.15 ยกเว้นหินอ่อนก้อนเหลี่ยมพิกัดศุลกากร 2515.12.10 ที่มีรูปทรงมิติเป็นแท่งตันขนาดด้านกว้าง ยาว และสูง ตั้งแต่ด้านละ 50 เซนติเมตรขึ้นไป
- หินอ่อน ทราเวอร์ทิน และอะลาบาสเตอร์ ตามพิกัดศุลกากร 6802.21.00
- หินแกรนิต ตามพิกัดศุลกากร 6802.23.00
- หินอื่น ๆ ตามพิกัดศุลกากร 6802.29.10 และ 6802.29.90
- เริ่มมีผลตั้งแต่ 25 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- กองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป กรมการค้าต่างประเทศ โทร. 0 2547 5124 หรือ สายด่วน DFT 1385
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการ (ร่าง) ประกาศกระทรวงพาณิชย์ ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้หินเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าในการดำเนินธุรกิจตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการปรับปรุงข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคทางการค้า
นอกจากนี้ การยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ฉบับดังกล่าวยังเป็นการดำเนินการให้เป็นไปตามพันธกรณีความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) และความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) โดยมีผลให้สินค้าหินที่อยู่ในข่ายควบคุม 4 กลุ่ม ได้แก่
- หินอ่อน ทราเวอร์ทิน อีคอสซิน และหินอื่นๆ พิกัดศุลกากร 25.15 ยกเว้นหินอ่อนก้อนเหลี่ยมพิกัดศุลกากร 2515.12.10 ที่มีรูปทรงมิติเป็นแท่งตันขนาดด้านกว้าง ยาว และสูง ตั้งแต่ด้านละ 50 เซนติเมตรขึ้นไป
- หินอ่อน ทราเวอร์ทิน และอะลาบาสเตอร์ ตามพิกัดศุลกากร 6802.21.00
- หินแกรนิต ตามพิกัดศุลกากร 6802.23.00
- หินอื่น ๆ ตามพิกัดศุลกากร 6802.29.10 และ 6802.29.90
โดยการนำเข้าหินดังกล่าวไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าจากกระทรวงพาณิชย์อีกต่อไป ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมทรัพยากรธรณี กรมศุลกากร กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมหินอ่อนและแกรนิตไทย และสภาการเหมืองแร่ โดยจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า การยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ฉบับดังกล่าวจะเป็นการลดอุปสรรคในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการให้ได้รับความสะดวกทางการค้า ดังนั้น ทุกภาคส่วนควรเตรียมความพร้อมรองรับการแข่งขันที่จะมีมากขึ้นในอนาคตด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ประชาชน และผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป กรมการค้าต่างประเทศ โทรศัพท์ 0 2547 5124 หรือสายด่วน DFT 1385
ที่มา : https://shorturl.asia/YtDBW