กระทรวงแรงงาน ประกาศ นายจ้างอำนวยความสะดวก “ลูกจ้าง” รัฐ-เอกชน ไปใช้สิทธิไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด
ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้ วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.)
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ออกประกาศขอความร่วมมือนายจ้างสถานประกอบกิจการอนุญาตให้ลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบกิจการ ซึ่งมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งฯ เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ณ หน่วยเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีชื่ออยู่ โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด เพื่อให้นายจ้างอำนวยความสะดวกแก่ลูกจ้างในการไปใช้สิทธิ โดยกำหนดให้ลูกจ้างสามารถหยุดงานหรือปรับเวลาทำงานเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ตามกฎหมายเลือกตั้ง
สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้
- สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน (วันที่ 25 – 31 ม.ค. 68)
- และหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน (วันที่ 2 – 8 ก.พ. 68)
ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ที่
- เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th
- หรือ Application Smart Vote สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
- หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริการสายด่วน 1444
บทสรุป
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้ วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จึงได้ออกประกาศ ขอความร่วมมือนายจ้างสถานประกอบกิจการ อนุญาตให้ลูกจ้างเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ณ หน่วยเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีชื่ออยู่ โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ทำงานนอกพื้นที่ทะเบียนบ้านของตนเอง สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้โดยสะดวก และไม่เป็นการขัดขวางหรือไม่ให้ความสะดวกผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกจ้างให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งจะมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งนี้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องเตรียมบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ที่มีรูปถ่ายและเลขบัตรประจำตัวประชาชน ไปด้วยในวันเลือกตั้ง
รายละเอียด
(25 ม.ค. 68) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้ วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ได้ออกประกาศ ขอความร่วมมือนายจ้างสถานประกอบกิจการ อนุญาตให้ลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบกิจการ ซึ่งมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งฯ เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ณ หน่วยเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีชื่ออยู่ โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด เพื่อให้นายจ้างอำนวยความสะดวกแก่ลูกจ้างในการไปใช้สิทธิ โดยกำหนดให้ลูกจ้างสามารถหยุดงานหรือปรับเวลาทำงานเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ตามกฎหมายเลือกตั้ง
สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน (วันที่ 25 – 31 ม.ค. 68) และหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน (วันที่ 2 – 8 ก.พ. 68) ตามแบบฟอร์มแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น (ส.ถ./ผ.ถ. 1/8) หรือทำเป็นหนังสือซึ่งอย่างน้อยต้องระบุหมายเลขประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้านให้ชัดเจน พร้อมทั้งแจ้งเหตุอันสมควร โดยผ่านช่องทาง ดังนี้
1. ยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยตนเอง
2. ทำเป็นหนังสือมอบหมายให้บุคคลอื่นไปยื่นแทน
3. จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
4. แจ้งเหตุผ่านเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือแอปพลิเคชัน Smart Vote
5. แจ้งเหตุผ่านเว็บไซต์ของสำนักบริหารการทะเบียน มท. https://stat.bora.dopa.go.th/Election/abscause/#/main
เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ทำงานนอกพื้นที่ทะเบียนบ้านของตนเอง สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้โดยสะดวก และเพื่อให้การออกเสียงลงคะแนนเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 117 ที่กำหนดบทลงโทษ ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างหากขัดขวาง หน่วงเหนี่ยว หรือไม่ให้ความสะดวกผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกจ้างให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยไม่มีเหตุอันสมควร มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมการเลือกตั้งท้องถิ่นรูปแบบอื่นด้วย หากนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาไม่อำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่มีเหตุจำเป็น อาจเข้าข่ายกระทำความผิดและมีโทษทางกฎหมายนี้เช่นกัน
นายคารม ระบุว่า “การใช้กฎหมายบังคับนายจ้างให้หยุดงาน ไม่สามารถทำได้ เพราะจะกระทบต่อระบบการผลิตและการดำเนินธุรกิจของนายจ้าง ดังนั้น การจัดสรรเวลาให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้งขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละสถานประกอบการ โดยขอให้นายจ้างพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และย้ำว่า กฎหมายมีบทลงโทษ สำหรับนายจ้างที่ขัดขวาง หรือไม่อำนวยความสะดวกให้ลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร 10 พื้นที่ หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546”
ปฏิทินเลือกตั้ง นายก อบจ. และ ส.อบจ. ปี 2568
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีจังหวัดที่มีการเลือกตั้งสมาชิกทั้งสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) จำนวน 47 จังหวัด ประกอบด้วย
- ภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ศรีสะเกษ สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ
- ภาคกลาง นครนายก นครปฐม นนทบุรี พิจิตร ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี
- ภาคตะวันออก จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ปราจีนบุรี ระยอง
- ภาคใต้ กระบี่ ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา สงขลา สตูล สุราษฎร์ธานี
- ภาคตะวันตก ประจวบคีรีขันธ์
- เลือกตั้งเฉพาะ ส.อบจ. ใน 29 จังหวัด ได้แก่
- ภาคเหนือ กำแพงเพชร ตาก พะเยา พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สุรินทร์ อุดรธานี อุบลราชธานี
- ภาคกลาง กาญจนบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สระแก้ว อุทัยธานี อ่างทอง
- ภาคใต้ ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง
- ภาคตะวันตก เพชรบุรี
สีของบัตรเลือกตั้งที่ใช้ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดสีของบัตรเลือกตั้งที่ใช้ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่จะเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. โดยแยกสีบัตรเลือกตั้งให้มีความแตกต่างกันระหว่างบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยแบ่งตามภาค ดังนี้
ภาคกลาง และตะวันออก สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด บัตรสีเขียว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด บัตรสีชมพู
ภาคเเหนือ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด บัตรสีม่วง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด บัตรสีเหลือง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด บัตรสีเขียวอมฟ้า นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด บัตรสีน้ำตาล
ภาคใต้ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด บัตรสีคราม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด บัตรสีแดงเลือดหมู
ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ข้อ 133 ที่กำหนดว่า กรณีที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นในวัน เวลา และที่เลือกตั้งเดียวกัน ให้สีบัตรเลือกตั้งแตกต่างกัน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
1. มีสัญชาติไทย แต่ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
2. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ในวันเลือกตั้ง
3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง
4. คุณสมบัติอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด
ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
– เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช
– อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่
– ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
– วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
– มีลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด
หลักฐานที่ใช้แสดงตนในการลงคะแนนเลือกตั้ง
– บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรประจำตัวประชาชนที่หมดอายุก็ใช้ได้)
– บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขบัตรประจำตัวประชาชน เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
เปิดผ่านแอปพลิเคชัน แสดงหลักฐานแบบออนไลน์ ใช้ได้ 3 แอปพลิเคชัน ได้แก่
แอปพลิเคชัน ThaID (บัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์)
แอปพลิเคชัน DLT QR LICENCE (ใบอนุญาตขับขี่อิเล็กทรอนิกส์)
แอปพลิเคชันบัตรคนพิการ (บัตรประจำตัวคนพิการอิเล็กทรอนิกส์)
ขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้ง
1.ตรวจสอบรายชื่อ : ตรวจสอบรายชื่อ และลำดับที่จากบัญชีรายชื่อ ที่ประกาศไว้หน้าที่เลือกตั้ง
2. ยื่นหลักฐานแสดงตน : แสดงหลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตร หรือหลักฐานที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขบัตรประจำตัวประชาชนต่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือในบัญชีรายชื่อ
3. รับบัตรเลือกตั้ง : ลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือลงที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง โดยรับบัตรเลือกตั้ง ดังนี้
– จังหวัดที่เลือกตั้ง ส.อบจ. และนายก อบจ. จะได้รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่ และบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
– จังหวัดที่เลือกตั้ง ส.อบจ. อย่างเดียว จะได้รับบัตรเลือกตั้ง 1 ใบ
4. ทำเครื่องหมายกากบาท : เข้าคูหาลงคะแนนทำเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในช่องทำเครื่องหมาย ดังนี้
– บัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เลือกผู้สมัครได้หนึ่งคน
– บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เลือกผู้สมัครได้ไม่เกินจำนวนสมาชิกที่แต่ละเขตเลือกตั้งนั้นพึงมี
– หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท (X) ในช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด แล้วพับบัตรเลือกตั้ง
5. หย่อนบัตรเลือกตั้งด้วยตัวเอง : นำบัตรเลือกตั้งที่พับเรียบร้อยแล้วหย่อนใส่ลงหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเอง
การอำนวยความสะดวกแก่คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุในการลงคะแนนเลือกตั้ง
กกต.ได้จัดให้มีการอำนวยความสะดวกในการออกเสียงลงคะแนนแก่คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุไว้เป็นพิเศษ จัดให้มีการช่วยเหลือในการออกเสียงลงคะแนนภายใต้การกำกับดูแลของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ในการช่วยเหลือดังกล่าวต้องให้บุคคลนั้นได้ออกเสียงลงคะแนนด้วยตนเองตามเจตนาของบุคคลนั้น เว้นแต่ลักษณะทางกายภาพ ทำให้ไม่สามารถทำเครื่องหมายลงในบัตรเลือกตั้งได้ ให้บุคคลอื่นหรือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง เป็นผู้กระทำการแทนโดยความยินยอมและเป็นไปตามเจตนาของคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุนั้น ทั้งนี้ ให้ถือว่าเป็นการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ
ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ที่ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการ
สายด่วน 1444
ที่มา : https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/33/iid/358814