กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมเปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม

 กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมเปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม

            กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมเปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม โดยรวบรวมเอกสารโบราณ ส่วนใหญ่รวบรวมมาจากชาวบ้านในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ คัมภีร์อัลกุรอานที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุกว่า 1,000 ปี โดยเปิดให้บริการทุกวันเสาร์ – วันพฤหัสบดี (ปิดวันศุกร์) ช่วงเช้าเปิด เวลา 09.00 – 12.00 น. ช่วงบ่าย เปิดเวลา 13.00 – 17.00 น. นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีการจัดนิทรรศการโดยแบ่งออกเป็น 3 ห้อง ดังนี้ ห้องที่ 1 ห้องบรรยายเกริ่นนำ ห้องที่ 2 เนื้อหาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตวิถีมุสลิม ตามแนวทางที่ศาสนาบัญญัติไว้และแนะนำสถานที่สำคัญๆ ห้องที่ 3 เป็นเนื้อหาการเผยแผ่ศาสนาอิสลามสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย

 


 

 

          นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กราบสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดนราธิวาส ก่อนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการเตรียมความพร้อม การเปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส

          ทั้งนี้ เมื่อปี 2559 มูลนิธิพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและคัมภีร์อัลกุรอาน ยินยอมให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ใช้ที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองของมูลนิธิฯ ดำเนินการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานโบราณ และมรดกวัฒนธรรมอิสลาม รวมถึงเป็นสถานที่จัดเก็บและจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานมาตรฐานสากล

          โดยรวบรวมเอกสารโบราณ ส่วนใหญ่รวบรวมมาจากชาวบ้านในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ คัมภีร์อัลกุรอานที่เก่าแก่ที่สุด มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นมรดกอันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมอิสลาม นอกจากนี้ยังมีตำรายา ตำราดาราศาสตร์ และตำราต่าง ๆ ที่มีอายุเก่าแก่อีกหลายเล่ม แต่เดิมชาวบ้านจัดเก็บคัมภีร์อัลกุรอานไว้ตามบ้าน ไม่ได้นำมารวบรวมไว้ในพิพิธภัณฑ์ เมื่อกรมศิลปากรเข้ามาดูแล ชาวบ้านจึงรวบรวมตำราที่สำคัญ นำมาซ่อมแซมและเก็บรักษาไว้

          พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน จัดคัมภีร์อัลกุรอานออกเป็น 8 กลุ่ม ที่ได้รับการบริจาค คือ 1.คัมภีร์อัลกุรอานเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับมาเลย์นูซันตาราหรืออาเซียน 2.อินเดีย 3.จีน 4.เปอร์เซีย 5.อียิปต์ 6.สเปน 7.แอฟริกา และ 8.อุซเบกิสถาน

          นอกจากนี้ ภายในอาคารยังมีการจัดนิทรรศการโดยแบ่งออกเป็น 3 ห้อง ห้องที่ 1 ห้องบรรยายเกริ่นนำ ห้องที่ 2 เนื้อหาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตวิถีมุสลิม ตามแนวทางที่ศาสนาบัญญัติไว้และแนะนำสถานที่สำคัญๆ และห้องที่ 3 เป็นเนื้อหาการเผยแผ่ศาสนาอิสลามสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย โดยคัดเลือกคัมภีร์อัลกุรอานจัดแสดงเป็นชิ้นหลักชิ้นรอง ด้วยการจัดทำ 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และมลายูปัตตานี เปิดให้บริการทุกวันเสาร์ – วันพฤหัสบดี (ปิดวันศุกร์) ช่วงเช้าเปิดเวลา 09.00 – 12.00 น. ส่วนช่วงบ่าย เปิดเวลา 13.00 – 17.00 น.

 


 

ที่มา : https://shorturl.asia/4Rdcg