สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งเตือนอ้างไม่รู้ก็ไม่รอด บุหรี่ไฟฟ้า

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งเตือนอ้างไม่รู้ก็ไม่รอด บุหรี่ไฟฟ้า

          สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งเตือนอ้างไม่รู้ก็ไม่รอด บุหรี่ไฟฟ้า


 

 

สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งเตือนอ้างไม่รู้ก็ไม่รอด บุหรี่ไฟฟ้า

            บุหรี่ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ การขาย การให้บริการ การผลิต รวมไปถึงการครอบครองบุหรี่ ไฟฟ้าว่าผู้ที่ครอบครองนั้นล้วนมีกฎหมายระบุความผิดไว้ทั้งสิ้น

  • ผู้นําเข้าบุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดตามประกาศกระทรวง พาณิชย์ เรื่อง กําหนดให้บารากู่และบารากูไฟฟ้า หรือบุหรี่ ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนําเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ซึ่งมีโทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่า ของราคาสินค้า หรือทั้งจําทั้งปรับ
  • ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 244 ซึ่งมีโทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และศาลอาจสั่งริบของนั้นก็ได้ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคําพิพากษาหรือไม่ เพราะเป็นสิ่งที่กฎหมายกําหนดเป็นของต้องห้าม ไม่ให้นําเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หากผู้ใดนําสินค้าต้องห้ามเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรจะมีความผิดต้องรับโทษตามกฎหมาย
  • การผลิต การซื้อขาย รวมถึงการหรือให้บริการ “บุหรี่ไฟฟ้า” มีความผิดตามคําสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความ ปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า ค้าบารากู่ บารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ นํ้ายา าหรับเติมบารากุไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ รวมถึงการให้เช่า ให้เช่าชื่อ หรือจัดหาให้ไม่ว่าด้วยประการใด ๆ โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น ตลอดจนการเสนอหรือการชักชวน มีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
  • ผู้ครอบครอง ย่อมมีความผิดอ้างอิงตามคําพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2560 ผู้ครอบครองจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ ถึงแม้คําพิพากษาคดีนี้จะเป็นเรื่อง การครอบครองเตาบารากู่ แต่กฎหมายที่ใช้บังคับเป็นกฎหมายตัวเดียวกัน โดยยังมิได้ผ่าน พิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจําทั้งปรับ (5) การสูบบุหรี่ไฟฟ้า ในที่สาธารณะ ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มีบทลงโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท 

           ดังนั้นข้อเท็จจริงใน “ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า” ก็ย่อมต้องเกิดค่าถาม ขึ้นอยู่แล้วว่า คุณได้บุหรี่ไฟฟ้ามาอย่างไร เพราะโดยต้นทางของ ระบบกฎหมายเพื่อควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าของไทย มีความผิดตั้งแต่ต้น ทาง คือ “ท้ามาเข้า” และกําจัดบุหรี่ไฟฟ้าที่มีในประเทศด้วยการ ห้ามขาย” “ห้ามให้บริการ” จึงอาจกล่าวได้ว่าการครอบครอง บุหรี่ไฟฟ้าก็ย่อมมี “ความเสี่ยงต่อการถูกดําเนินคดี

           อ้างอิง : กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า โดย กรมควบคุมโรค

 


ที่มา : https://shorturl.asia/ngXNz