การรถไฟฯ รายงานความคืบหน้าขบวนรถไฟดีเซลราง KIHA 40 และ 48 จำนวน 20 คัน

การรถไฟฯ รายงานความคืบหน้าขบวนรถไฟดีเซลราง KIHA 40 และ 48 จำนวน 20 คัน

          การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานความคืบหน้าการนำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ KIHA 40 และ 48 จำนวน 20 คัน โดยนำมาปรับปรุงเพื่อเสริมศักยภาพการเดินรถโดยสาร ซึ่งขณะนี้ได้ขนย้ายแคร่รถไปยังโรงงานมักกะสัน เพื่อปรับขนาดเพลาล้อให้เข้ากับมาตรฐานราง คาดว่าใช้เวลาประมาณ 25 -30 วัน ก่อนจะส่งไปประกอบเข้ากับตัวรถที่สถานีแหลมฉบัง และปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะใช้เวลาประมาณ 60 วันหลังจากนั้นจึงจะนำรถไปทดสอบระบบต่าง ๆ คาดว่าจะเป็นช่วงประมาณปลายเดือนมิถุนายน เพื่อตรวจสอบทางด้านวิศวกรรม เมื่อทดสอบเสร็จแล้วจึงจะนำกลับมาปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขา ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จได้ภายในปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบ 20 คันต่อไป เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการ


 

 

          นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ KIHA 40 และ 48 จำนวน 20 คัน มาปรับปรุงเพื่อเสริมศักยภาพการเดินรถโดยสารว่า ขณะนี้ได้ขนย้ายแคร่รถไปยังโรงงานมักกะสันเพื่อปรับขนาดเพลาล้อให้เข้ากับมาตรฐานรางของประเทศไทยที่กว้าง 1 เมตรแล้ว คาดว่าใช้เวลาประมาณ 25 -30 วัน ก่อนจะส่งไปประกอบเข้ากับตัวรถที่สถานีแหลมฉบัง หลังจากนั้น ขบวนรถจะถูกนำกลับมายังโรงงานมักกะสันอีกครั้ง เพื่อปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยจะมีการตรวจสอบอุปกรณ์ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นระบบส่วนล่าง ระบบส่งกำลัง ระบบห้ามล้อ รวมถึงการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะใช้เวลาประมาณ 60 วัน หลังจากนั้นจึงจะนำรถไปทดสอบระบบต่าง ๆ คาดว่าจะเป็นช่วงประมาณปลายเดือนมิถุนายน เพื่อตรวจสอบทางด้านวิศวกรรม เช่น อัตราเร่ง ระยะห้ามล้อ ติดตั้งระบบ Vigilance ตรวจสอบการสั่นสะเทือนทางกล และระบบเครื่องปรับอากาศ เมื่อทดสอบเสร็จแล้วจึงจะนำกลับมาปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขา ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จได้ภายในปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบ 20 คันต่อไป เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการ


          การรถไฟฯ ยังมีแผนนำขบวนรถดังกล่าวมาเปิดให้บริการเสริมทัพขบวนรถโดยสารชานเมือง (FEEDER) เพื่อขนส่งผู้โดยสารระหว่างปริมณฑลและกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเมืองอย่างไร้รอยต่อ ตลอดจนสามารถรองรับปริมาณการเดินทางที่เพิ่มขึ้นของพี่น้องประชาชนให้เดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย


          สำหรับขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศที่การรถไฟฯ ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST จำนวน 20 คัน ประกอบด้วย ขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น 40 จำนวน 9 คัน ซึ่งมีห้องขับสองด้าน (Double Cab) ความจุสูงสุด 65 ที่นั่ง/ตู้ แบ่งเป็นเบาะรูปแบบนั่งยาว 2 คัน และนั่งขวาง 7 คัน รวมทั้งมีห้องสุขาทั้งสองด้าน และขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น 48 จำนวน 11 คัน ซึ่งมีห้องขับเพียงหนึ่งด้าน (Single cab) และห้องสุขาอีกหนึ่งด้าน มีเบาะรูปแบบนั่งยาวทั้งคัน ความจุสูงสุด 82 ที่นั่ง/ตู้


          ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นได้มอบขบวนรถโดยสารให้กับประเทศไทยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา รวมแล้วทั้งสิ้น จำนวน 5 ครั้ง จากทั้งบริษัท JR West และ JR Hokkaido โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 และเป็นครั้งแรกที่การรถไฟฯ ได้รับขบวนรถโดยสารจากบริษัท JR EAST เพื่อนำมาปรับปรุงและใช้ในกิจการรถไฟเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน


          “การรถไฟฯ มั่นใจว่า ขบวนรถดีเซลราง KIHA 40 และ 48 จะเข้ามาช่วยเสริมทัพขบวนรถโดยสารชานเมือง เพื่อรองรับปริมาณการเดินทางของผู้ใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้ได้รับการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนทำงานที่ใช้บริการเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะเป็นการยกระดับคุณภาพการเดินทางของประชาชนแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล ที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง บรรเทาปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อม และช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน” นายวีริศ กล่าวทิ้งท้าย


 

ที่มา : https://citly.me/GJPd9