วธ. เสนอขึ้นทะเบียน “ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก

วธ. เสนอขึ้นทะเบียน “ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก

          กระทรวงวัฒนธรรม เสนอขึ้นทะเบียน “ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก โดยเน้นคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความสมานฉันท์ สร้างสรรค์เศรษฐกิจท้องถิ่น และกระตุ้นการอนุรักษ์ประเพณีและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “วัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” และการส่งเสริม Soft Power ด้านเฟสติวัลเพื่อยกระดับเทศกาลไทยสู่ระดับสากล

 


 

 

          นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบเอกสารรายการ “ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย” (Loy Krathong : Traditional Water – honoring Festival in Thailand) เพื่อเสนอเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) และเห็นชอบให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรมในฐานะเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามในเอกสารดังกล่าว ตามที่ วธ. เสนอ

          นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า วธ.ขอเสนอรายการ “ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก ตามมาตรา 16 แห่งอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 สำหรับประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยมีคุณค่าความสำคัญสอดคล้องตามหลักเกณฑ์การเสนอในประเภทรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติของยูเนสโก ด้วยองค์ประกอบดังนี้ ข้อที่ 1 สอดคล้องกับลักษณะของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ตามที่นิยามไว้ในมาตรา 2 ของอนุสัญญา ฯ โดยถือสาระสำคัญเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมด้านมุขปาฐะ แนวปฏิบัติทางสังคม งานช่างฝีมือ ดนตรีและการละเล่น รวมถึงความรู้ที่เกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล ข้อที่ 2 เป็นเรื่องที่ส่งเสริมความประจักษ์และตระหนักรู้ถึงความสำคัญของมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ อีกทั้งกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมในระดับโลกและแสดงถึงความสร้างสรรค์ของมนุษยชาติ ซึ่งประเพณีลอยกระทงช่วยสร้างความสมานฉันท์ในสังคมที่หลากหลาย พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น กระตุ้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการรักษาประเพณีและสิ่งแวดล้อม

          นอกจากนี้ สอดคล้องกับข้อที่ 3 มาตรการสงวนรักษา เพื่อการป้องกันและส่งเสริมเรื่องดังกล่าว โดยเน้นมาตรการด้านการศึกษา การอนุรักษ์ประเพณี และสิ่งแวดล้อม ข้อที่ 4 เรื่องที่นำเสนอเกิดจากชุมชน กลุ่มบุคคล หรือปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง พร้อมกับได้รับความเห็นชอบซึ่งมาจากการรับรู้เข้าใจอย่างเป็นอิสระเสียก่อน การเสนอประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยเป็นความร่วมมือจากชุมชนในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ที่มีผู้ปฏิบัติสืบทอดเข้มแข็งทั่วประเทศซึ่งต่างให้ความเห็นชอบและเสนอมาตรการที่ปลอดภัยร่วมกัน และข้อที่ 5 เรื่องที่นำเสนอปรากฏและดำรงอยู่ในดินแดนของรัฐภาคีสมาชิกที่นำเสนอโดยบรรจุอยู่แล้ว ในบัญชีมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของรัฐภาคีสมาชิกตามที่นิยามไว้ในอนุสัญญา มาตรา 11 และ 12 “สำหรับประเพณีลอยกระทง ได้รับการขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ในปี พ.ศ. 2554 การเสนอประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็น Soft Power ที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะด้านเฟสติวัล เพื่อส่งเสริมคุณค่าและมูลค่าเทศกาลประเพณีให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญนำทุนทางวัฒนธรรม พัฒนาสู่ทุนทางเศรษฐกิจในการสร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน อันจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพร้อมกับการอนุรักษ์ประเพณีและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจะเป็นโอกาส ในการเสริมสร้างภาพลักษณ์และบทบาทของไทยในเวทีโลก สามารถยกระดับเทศกาลประเพณีให้เป็นที่รู้จักในระดับชาติและนานาชาติ ตามนโยบาย “วัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ของ วธ.” รมว.วธ. กล่าว

          ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในบัญชีรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003 ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จำนวน 6 รายการ ได้แก่ โขน (ปี 2561) นวดไทย (ปี 2562) โนรา (ปี 2564) สงกรานต์ในประเทศไทย (ปี 2566) ต้มยำกุ้ง (ปี 2567) และเคบายา (ปี 2567)

 


 

ที่มา : https://shorturl.asia/dKEho