กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดรับซื้อปาล์มน้ำมันใน 8 จังหวัดภาคใต้ พร้อมดันราคารับซื้อผลปาล์มเพิ่มสูงขึ้น
กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดรับซื้อปาล์มน้ำมันใน 8 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ฯ นครศรีฯ พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ทำให้ราคารับซื้อปาล์มทะลาย (เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18%) ขยับขึ้นเป็น 5.00–5.70 บาทต่อกิโลกรัม เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว 77 จุด พบปฏิบัติตามกฎหมายดีขึ้น พร้อมกำชับให้โรงงานและจุดรับซื้อแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจน ห้ามเอาเปรียบเกษตรกร หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนอกจากนี้ แนะเกษตรกรตัดปาล์มสุกเต็มที่ เพื่อได้ราคาดีและน้ำหนักเพิ่ม หากพบปัญหาหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม แจ้งสายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดใกล้บ้านได้ทันที
พาณิชย์ตรวจเข้มจุดรับซื้อปาล์ม 8 จังหวัดใต้ ดันราคารับซื้อผลปาล์มเพิ่มสูงขึ้น
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน โดยให้กรมการค้าภายใน กำกับดูแลราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันอย่างใกล้ชิด อธิบดีกรมการค้าภายในจึงได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายใน เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ชั่งตวงวัดในพื้นที่ กำกับการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันของโรงงานสกัดและจุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน (ลานเท) อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ในแหล่งผลิตพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญในจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล ส่งผลทำให้เกษตรกรได้รับราคาเพิ่มสูงขึ้น ยกระดับรายได้ สร้างเสถียรภาพ เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการและเกษตรกรไทย
จากการตรวจสอบของพาณิชย์จังหวัดและสายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายใน ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 เป็นต้นมา ตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อ จำนวน 77 ราย ประกอบด้วย โรงงานสกัด จำนวน 16 ราย และลานเท จำนวน 61 ราย พบว่ารับซื้อผลปาล์มทะลายในราคาเพิ่มสูงขึ้นทำให้เกษตรกรมีความพึงพอใจในรายได้ในราคารับซื้อปาล์มทะลาย 18 เปอร์เซ็นต์ ราคา 5.00-5.70 บาท/กก. นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรและติดตามให้มีการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในราคาตามมติที่ประชุมแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมัน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงนี้ปริมาณผลปาล์มเข้าสู่ตลาดเริ่มลดลง โดยขอให้ทางโรงงานสกัดเร่งสกัดเต็มกำลังการผลิต เพื่อลดปริมาณผลปาล์มที่ค้างอยู่หน้าลาน และจะได้นำผลผลิตปาล์มที่มีคุณภาพสดใหม่เข้าสู่กระบวนการผลิต ส่งผลให้อัตราเปอร์เซ็นต์การสกัดเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มตัดปาล์มสุกเต็มที่ เพื่อให้ได้ราคาดีและจะได้น้ำหนักเพิ่มด้วย นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ผู้ประกอบการโรงสกัดน้ำมันปาล์มและลานเทให้ปฏิบัติตามกฎหมาย กำชับให้ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจนและเปิดเผย โดยได้ส่งสายตรวจเฉพาะกิจ สับเปลี่ยนกำลังลงพื้นที่เฝ้าติดตามตรวจสอบพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง จึงขอเตือนให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องการรับซื้อผลปาล์มทะลาย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการรับซื้อ ตลอดจนการแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และจัดทำบัญชีคุมสินค้าน้ำมันปาล์มและผลปาล์มน้ำมัน รวมทั้งห้ามกระทำพฤติกรรมใดๆ ที่จะเป็นการทำให้ผลปาล์มร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติอย่างเคร่งครัด หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่แสดงราคารับซื้อ หรือแสดงไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีกดราคารับซื้อต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีทำผลปาล์มร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากไม่แจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้งตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบการกระทำความผิดข้างต้นจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายผลปาล์มน้ำมันหรือสินค้าเกษตรอื่น รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งสายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
ช่องทางติดตามข่าวสารกรมการค้าภายใน
- Website www.dit.go.th
- Tiktok https://www.tiktok.com/@dit_channel
- Youtube https://youtube.com/@ditchannel.?si=XIKq8yvXadRZwsHG
- IG https://www.instagram.com/dit_moc?igsh=dnc5aTVwM2l2aXA2
- X https://x.com/dit_moc
- สายด่วน โทร 1569
ที่มา : facebook กรมการค้าภายใน DIT