ครม. เห็นชอบให้ข้าราชการ ลาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ วันที่ 28 ก.ค. 2568 ได้ โดยไม่ถือเป็นวันลา

ครม. เห็นชอบให้ข้าราชการ ลาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ วันที่ 28 ก.ค. 2568 ได้ โดยไม่ถือเป็นวันลา

        คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ ลูกจ้างภาครัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทและบวชชีพรหมโพธิเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 และพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยไม่ถือเป็นวันลา


 

 

        (20 พ.ค. 68) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทและบวชชีพรหมโพธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล พระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 โดยไม่ถือเป็นวันลา (ระหว่างวันที่ 17 – 30 กรกฎาคม 2568 รวม 14 วัน) ตามที่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอ


สาระสำคัญของเรื่อง

1. ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559 – 2567 คณะรัฐมนตรีเคยมีมติอนุมัติให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาบรรพชาอุปสมบทและบวชชีพรหมโพธิตามโครงการเฉลิมพระเกียรติหรือถวายพระราชกุศลในโอกาสต่าง ๆ ที่สำคัญ โดยไม่ถือเป็นวันลา มาอย่างต่อเนื่อง

2. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ร่วมกับ วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี และคณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ดำเนินโครงการบรรพชาอุปสมบทและบวชชีพรหมโพธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล พระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 (โครงการฯ) โดยกำหนดเป้าหมายผู้เข้าร่วมบรรพชาอุปสมบท จำนวน 99 รูป บวชชีพรหมโพธิ และบวชเนกขัมมะพรหมโพธิ (สตรี) จำนวน 73 คน ระหว่างวันที่ 17 – 30 กรกฎาคม 2568 รวม 14 วัน กำหนดการดำเนินโครงการฯ ณ (1) วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ (2) วัดไทยพุทธคยา เมืองคยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย (อินเดีย) และ (3) พุทธสังเวชนียสถาน อินเดีย และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล (เนปาล)

3. โดยที่ในหลักการข้าราชการ ซึ่งประสงค์จะลาอุปสมบทในพระพุทธศาสนาให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงผู้มีอำนาจพิจารณาหรืออนุญาตตามนัยข้อ 29 วรรคหนึ่ง ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 ซึ่งในระเบียบดังกล่าวมิได้กำหนดจำนวนครั้งและจำนวนวันในการลาอุปสมบท ที่ข้าราชการจะลาได้แต่ประการใด แต่ได้กำหนดให้การได้รับเงินเดือนระหว่างการลาไว้ตามนัย ข้อ 16 ของระเบียบดังกล่าว ให้เป็นไปตามมาตรา 31 แห่งพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่บัญญัติให้ข้าราชการที่ลาอุปสมบทจะได้รับเงินเดือนระหว่างลาได้ไม่เกิน 120 วัน สำหรับการลาอุปสมบทในครั้งแรกนับแต่เริ่มรับราชการ โดยไม่นับรวมการอุปสมบทที่คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดไม่ให้ถือเป็นวันลาของข้าราชการ ดังนั้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอนตามหลักพระพุทธศาสนา และร่วมเฉลิมพระเกียรติ รวมถึงแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการบำเพ็ญคุณความดี ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล พระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชสมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568 จึงเห็นควรส่งเสริมให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีความประสงค์จะอุปสมบทถวายพระราชกุศล มีโอกาสเข้าร่วมอุปสมบทโดยทั่วกัน โดยให้ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมอุปสมบทเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่ถือเป็นวันลา เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติ

        จึงต้องเสนอคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ของส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมอุปสมบทถวายพระราชกุศลในครั้งนี้ได้ โดยไม่ถือเป็นวันลา เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติเพื่อเป็นการยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการฯ และเป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรา 31 แห่งพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือนฯ


ที่มา : เว็บไซต์ กรมประชาสัมพันธ์