กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกรณีโซเชียลชวนเชื่อ “บัตรขาวไทย” ขอสัญชาติง่าย บิดเบือนความจริง
กระทรวงมหาดไทย แจงกรณีโซเชียลชวนเชื่อ “บัตรขาวไทย” ขอสัญชาติง่าย บิดเบือนความจริง ย้ำกรมการปกครองกำหนดมาตรการและขั้นตอนการให้สถานะทางทะเบียนอย่างเข้มงวด
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ปรากฏข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับข้อความในโซเชียลมีเดียจีน ซึ่งกล่าวถึงการได้มาซึ่ง “บัตรสีขาว” หรือ “บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน” ของประเทศไทย โดยมีการนำเสนอข้อมูลที่อาจบิดเบือนสิทธิประโยชน์ และชักจูงให้เข้าใจผิดว่าสามารถขอสัญชาติไทยได้โดยง่าย รวมถึงสิทธิในการซื้อสังหาริมทรัพย์และประกอบอาชีพในประเทศไทย
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ข้อมูลที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้กำหนดขั้นตอนการพิจารณาให้สิทธิทางทะเบียนแก่ผู้ไม่มีสัญชาติไทยอย่างเข้มงวด โดยผู้ที่ได้รับสิทธิดังกล่าวจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
นางสาวไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้ดำเนินการสำรวจและจัดทำทะเบียนประวัติชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยเป็นเวลานานก่อนปี พ.ศ. 2542 แต่ตกหล่นจากการสำรวจในอดีต ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 ที่เห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล โดยได้เริ่มดำเนินการสำรวจตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 และสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2554
บุคคลที่ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยได้จัดเก็บภาพถ่ายใบหน้าและลายพิมพ์นิ้วมือลงในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์หรือแอบอ้างใช้รายการบุคคล
พร้อมกันนี้ได้ออก บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรสีขาว) เพื่อใช้เป็นเอกสารแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งยังเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสถานะบุคคลและการแปลงสัญชาติ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามคุณสมบัติที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ บุคคลที่ถือบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรสีขาว) จะสามารถยื่นคำขอมีสัญชาติไทยได้ในกรณีที่เกิดในประเทศไทยโดยมีหลักฐานการเกิด หากไม่ได้เกิดในประเทศไทยจะต้องมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะมีสิทธิขอแปลงสัญชาติเป็นไทยได้ โดยต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในกฎหมายเท่านั้น
หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1548 หรือที่ส่วนสัญชาติ สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทรศัพท์ 0 2791 7317 – 20
ที่มา : Facebook กระทรวงมหาดไทย PR