กรุงเทพมหานคร ประกาศให้ข้าราชการแต่งกายตามเพศสภาพได้ เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ

กรุงเทพมหานคร ประกาศให้ข้าราชการแต่งกายตามเพศสภาพได้ เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ

  • กรุงเทพมหานคร ประกาศให้ข้าราชการและบุคลากรของ กทม. สามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้อย่างเป็นทางการ
  • แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์และบริการประชาชนเต็มที่
  • ทั้งนี้ กทม. ยังประกาศ 5 แนวทางสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ได้แก่
    • ข้าราชการและบุคลากรของ กทม.สามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้
    • เปิดคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย (BKK Pride Clinic) รวม 31 แห่ง
    • จัดเทศกาล Pride Month ตั้งเป้าสู่เวทีระดับโลก
    • ส่งเสริมค่านิยมเท่าเทียมในโรงเรียนสังกัด กทม.
    • เปิดพื้นที่สาธารณะจัดกิจกรรม LGBTQIA+

 

           วันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ศาลาว่าการกทม. น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงนโยบายความหลากหลายทางเพศ ว่า การตระหนักรู้ถึงความหลากหลายทางเพศคือเรื่องสำคัญ ในอดีตสังคมอาจไม่ค่อยยอมรับเรื่องนี้ แต่ปัจจุบันโลกของเราเปลี่ยนไปแล้ว การยอมรับความหลากหลายทางเพศจะทำให้คนในสังคมมีความเข้าใจกัน ซึ่งจะนำไปสู่การยอมรับความแตกต่างเรื่องอื่นๆ มากขึ้นด้วย

           ดังนั้นผู้ว่าฯ กทม. จึงประกาศให้ข้าราชการ กทม.แสดงความเป็นตัวของตัวเอง โดยการเปิดโอกาสให้ข้าราชการแต่งกายตามเพศสภาพได้ เพราะเรื่องการแต่งกาย เป็นความชอบส่วนบุคคลนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้นแต่ต้องปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ ทำงานให้ดี ไม่บกพร่อง รวมถึง เรื่อง Sexual Harassment หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ต้องปกป้องไม่ให้เกิดภาวะอึดอัดหรือรังแกกัน ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมาจากการใช้ตำแหน่งหน้าที่กดดัน บังคับ หรือมาจากเพศสภาพ เพศวิถี ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น

           นอกจากนี้ กทม.ยังต้องการส่งเสริมความต้องการของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่น บริการด้านสาธารณสุข บริการด้านจิตวิทยา ความปลอดภัย และห้องน้ำสาธารณะ รวมไปถึงการให้ความรู้ในโรงเรียน การจัดงาน และการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กทม. เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้สังคมเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น

สำหรับแนวทางสนับสนุนความหลากหลายทางเพศของ กทม. ประกอบด้วย

  1. ข้าราชการและบุคลากรของ กทม.สามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้
  2. ให้บริการคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย (BKK Pride Clinic) 31 แห่ง ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 11 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข 20 แห่ง เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย และส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม
  3. จัดเทศกาล Pride Month เดือนมิ.ย. เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ตั้งเป้าเป็นเทศกาลระดับโลก (World Pride)
  4. โรงเรียนสังกัด กทม.ปลูกฝังค่านิยมด้านความเท่าเทียมและความหลากหลาย
  5. เปิดพื้นที่สาธารณะสำหรับจัดกิจกรรมด้านความหลากหลายทางเพศ เพื่อส่งเสริมสิทธิ หน้าที่และโอกาสทางสังคมของกลุ่ม LGBTQIA+

ที่มา :