กระทรวงคมนาคม มีมติห้ามรถโดยสาร 2 ชั้น วิ่งเส้นทางกบินทร์บุรี – วังน้ำเขียว เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง
ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง มีมติห้ามรถโดยสารสองชั้น (มาตรฐาน 4) เดินรถในเส้นทางหลวงหมายเลข 304 ช่วงสี่แยกกบินทร์บุรี – วังน้ำเขียว เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อเนื่อง

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติยืนยันให้ห้ามรถโดยสารสองชั้น (มาตรฐาน 4) เดินรถในเส้นทางหลวงหมายเลข 304 ช่วงสี่แยกกบินทร์บุรี – วังน้ำเขียว เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงสูงและมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับมีมติอนุมัติให้ชะลอการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวกับอีก 6 เส้นทาง ได้แก่
- ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า – พัทลุง
- ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ยางฮ่อ – แม่ตีบ
- ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเชียงใหม่ – ดอยนางแก้ว
- ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์ – โคกงาม
- ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ – อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และ
- ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงปัว – อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
โดยมติดังกล่าวจะชะลอการบังคับใช้ข้อกำหนดฯ ออกไปเป็นเวลา 180 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
ผู้ประกอบการรถโดยสาร 2 ชั้นที่จะทำการเดินรถใน 6 เส้นทางดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- ต้องนำรถโดยสาร 2 ชั้น มาเข้ารับการตรวจสภาพ (Recall) ณ ขบ. หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อตรวจความพร้อมของตัวรถให้ความพร้อมในการใช้งาน โดยเฉพาะตรวจการทำงานของระบบห้ามล้อเพิ่มเติม (ระบบลมเบรก) ซึ่งเป็นระบบที่สำคัญในการขับรถในพื้นที่ที่มีความลาดชัน
- พนักงานขับรถต้องเข้ารับการอบรมผ่านระบบ e-learning 2 ชั่วโมง หลักสูตร “การขับรถขนาดใหญ่บนเส้นทางลาดชัน”
- กำชับพนักงานขับรถโดยใช้ความเร็วตามป้ายจำกัดความเร็ว
ทั้งนี้ ขบ. จะประเมินผลของมาตรการที่ปรับปรุงใหม่ ควบคู่ไปกับการเร่งพัฒนาระบบ GPS ที่สามารถสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) เพื่อนำมาใช้ควบคุมและกำกับการเดินรถให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
