สปสช. ชี้แจงข้อกำหนดให้ซื้อสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทยไม่น้อยกว่า 30%
สืบเนื่องจากกรณี Facebook สมาพันธ์แพทย์ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 16.54 น. โพสต์ข้อความว่า สปสช. กำชับ! โรงพยาบาลทั่วประเทศต้องซื้อ ‘บัญชีนวัตกรรมไทย‘ ไม่น้อยกว่า 30% อาจถึง 100% จุดชนวนถกประสิทธิภาพของไทย VS ต่างชาตินั้น
สปสช. ขอชี้แจงว่าเป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้การสนับสนุนบัญชีนวัตกรรมไทยนั้นสปสช. ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่นๆที่เร่งรัดแต่ละหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์ และบริการนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยอย่างน้อยในอัตราส่วนร้อยละ 30 ของความต้องการใช้งานทั้งหมดของหน่วยงาน
สปสช. แจงข้อกำหนดให้ซื้อสินค้าบัญชีนวัตกรรมไทยไม่น้อยกว่า 30% เป็นไปตามมติ ครม. 2 พ.ค. 60 เพื่อสนับสนุนสิ่งประดิษฐ์ฝีมือคนไทย โรงพยาบาลรัฐต้องดำเนินการตามมติ ครม. อยู่แล้ว
สืบเนื่องจากกรณี Facebook สมาพันธ์แพทย์ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 เวลา 16.54 น. โพสต์ข้อความว่า สปสช. กำชับ! โรงพยาบาลทั่วประเทศต้องซื้อ ‘บัญชีนวัตกรรมไทย’ ไม่น้อยกว่า 30% อาจถึง 100% จุดชนวนถกประสิทธิภาพของไทย VS ต่างชาติ นั้น
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า สปสช. ขอชี้แจงว่า เป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้การสนับสนุนบัญชีนวัตกรรมไทยนั้น สปสช. ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่นๆ ที่เร่งรัดแต่ละหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยอย่างน้อยในอัตราส่วนร้อยละ 30 ของความต้องการใช้งานทั้งหมดของหน่วยงาน
ต่อมามติ ครม.วันที่ 8 มกราคม 2562 กระทรวงการคลังได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อยาหรือเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาซึ่งได้ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย โดยให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อผลิตภัณฑ์ยาหรือเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาซึ่งขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย มูลค่ารวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของแผนความต้องการจัดซื้อยาตามชื่อสามัญ (generic name)หรือเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยารายการที่ตรงกับบัญชีนวัตกรรมไทยทั้งหมดของหน่วยงานนั้น
“ดังนั้น การที่ระบุว่า สปสช. กำชับโรงพยาบาลทั่วประเทศต้องซื้อบัญชีนวัตกรรมไทยไม่น้อยกว่า 30% จึงเป็นการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนและชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด เนื่องจาก สปสช. ไม่ได้กำชับแต่เป็นการดำเนินการที่โรงพยาบาลในฐานะหน่วยงานรัฐต้องดำเนินการตามมติ ครม. อยู่แล้ว เพื่อสนับสนุนสิ่งประดิษฐ์ฝีมือคนไทยที่ได้มาตรฐาน” โฆษก สปสช. กล่าว