กองทัพภาคที่ 2 ร่วมกับ 20 จังหวัดภาคอีสาน เร่งจัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง
กองทัพภาคที่ 2 ร่วมกับ 20 จังหวัดภาคอีสาน เร่งจัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัดจัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะพื้นที่สำคัญ อาทิ ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน ให้จัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากสามารถควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ในทุกประเด็น และกำชับ ต้องตรวจสอบไปถึงต้นตอ คนอยู่เบื้องหลังหากพบเป็นคนต่างชาติให้ดำเนินคดีถึงที่สุดในประเทศไทยก่อนเนรเทศ พร้อมขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้อีก ปัจจุบันสถานการณ์ในภาพรวมชายแดนไทยกัมพูชา กำลังฝ่ายไทยมีความเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่าวานนี้ (2 ส.ค.) ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน ผ่านระบบ VTC เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัดใน ฐานะ ผอ.กอ.รมน จังหวัด ให้แต่ละหน่วยงาน บูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคเอกชน ประชาชน จัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะเพ็งเล็งในพื้นที่สำคัญ อาทิ ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน
นอกจากนี้ให้มีการจัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากสามารถควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ในทุกประเด็น เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โดยโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต คงต้องไปดูข้อกฎหมาย ทั้งนี้ได้กำชับ ห้ามปล่อยตัวง่ายๆ ต้องตรวจสอบไปถึงต้นตอ คนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมือที่สาม ที่ได้รับผลกระทบมาจากการปราบปราม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ บ่อนการพนัน ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อมาข่มขู่ ก็เป็นไปได้ทั้งหมด แต่หากพบว่าเป็นคนต่างประเทศ ก็ดำเนินคดี ให้ถึงที่สุดในประเทศไทยก่อน หลังสิ้นสุดคดีให้เนรเทศ พร้อมขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้อีก
พล.ท.บุญสินยังกล่าวถึงสถานการณ์ในภาพรวมชายแดนไทยกัมพูชา หลังทหารกัมพูชา มีการเพิ่มเติมกำลังต่อเนื่องว่า กำลังฝ่ายไทยมีความเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : Facebook NBT Connext