ยุติธรรม ร่วมกับ สาธารณสุข คุมเข้มห้ามขายใบกระท่อมใกล้ รร. และห้ามขายแบบแผงลอย หากฝ่าฝืนมีปรับ

ยุติธรรม ร่วมกับ สาธารณสุข คุมเข้มห้ามขายใบกระท่อมใกล้ รร. และห้ามขายแบบแผงลอย หากฝ่าฝืนมีปรับ

  • กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงนามประกาศกำหนด สถานที่ วิธีการ และลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม พ.ศ. 2568 ตาม พ.ร.บ. พืชกระท่อม พ.ศ. 2565 เพื่อคุ้มครองสุขภาพประชาชน
  • โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
    • ห้ามขายใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อม ในรัศมีไม่เกิน 1,000 เมตร จากแนวรั้วหรือแนวเขตของสถานศึกษา
    • ห้ามขายแบบเร่ขายหรือแผงลอย
  • ประกาศฉบับนี้ จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 30 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
  • ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 50,000 บาท ตามพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565
  • ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ทาง
    • สํานักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาคได้ทุกแห่ง
    • สายด่วน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

        ยธ.-สธ. ร่วมลงนามประกาศฉบับใหม่ กำหนดข้อห้ามขายใบกระท่อมและน้ำต้มกระท่อมในรัศมี 1,000 เมตรจากสถานศึกษา รวมถึงแผงลอยและการเร่ขาย หวังสกัดเด็ก เยาวชน และกลุ่มเปราะบางเข้าถึงง่าย ฝ่าฝืนปรับ 5 หมื่น มีผลบังคับใช้ภายใน 30 วัน

        เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 พันตํารวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมลงนามในประกาศกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กําหนดสถานที่ วิธีการ หรือลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม พ.ศ. 2568 ณ สํานักงาน ป.ป.ส.

        ตามที่ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565 ซึ่งมีสาระสําคัญประการหนึ่ง คือ การกําหนดมาตรการกํากับดูแลการขาย การโฆษณา และการบริโภคใบกระท่อม ซึ่งหากบริโภคมากเกินสมควร ก็อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ จึงมีบทบัญญัติเพื่อคุ้มครองสุขภาพของบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และห้ามมิให้ผู้ใดขายใบกระท่อมในสถานศึกษา หอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก ขายโดย ใช้เครื่องขาย หรือขายในสถานที่ โดยวิธีการหรือในลักษณะอื่นใดตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันประกาศกําหนด

        จากสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งปรากฏการขายใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อมในลักษณะเร่ขาย หรือตั้งแผงลอย ขายในที่สาธารณะและตามท้องถนนสาธารณะ รวมถึงการการขายในบริเวณใกล้สถานศึกษา ส่งผลให้เด็กหรือเยาวชน และกลุ่มเปราะบางอื่นสามารถเข้าถึงหรือหาซื้อใบกระท่อมหรือน้ำต้มกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิดได้โดยง่าย ซึ่งรัฐบาล ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนจํานวนมากให้เร่งรัดดําเนินการและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยด่วน

        ด้วยความตระหนักถึงความเสี่ยงและอันตรายดังกล่าวและเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีแนวโน้ม เพิ่มมากขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงได้ร่วมลงนามในประกาศ กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กําหนดสถานที่ วิธีการ หรือลักษณะต้องห้ามในการขายใบกระท่อม พ.ศ. 2568

โดยมีสาระสําคัญ คือ

  1. ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อมในสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ในระยะห่างไม่เกิน 1,000 เมตร จากแนว รั้วหรือแนวเขตของสถานศึกษา ตามมาตรา 25 (1)
  2. ห้ามผู้ใดขายใบกระท่อมและน้ำต้มใบกระท่อมโดยวิธีการหรือลักษณะการเร่ขาย หรือการจัดตั้งแผงลอย ประกาศฉบับนี้ จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนด 30 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 50,000 บาท ตามพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565

        ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายังสํานักงาน ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาคได้ทุกแห่ง รวมถึงสามารถแจ้งมายังสายด่วนยาเสพติด สํานักงาน ป.ป.ส. หมายเลข 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ที่มา : Website Hfocus.org