เติ้น ทัศนพล ปิดฉากฤดูกาล FIA Formula 3 2025 อย่างยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ที่ Monza ประเทศอิตาลี
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของ “เติ้น-ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์” นักแข่งไทยจากทีม Campos Racing ที่คว้าแชมป์ FIA Formula 3 Championship 2025 สนามสุดท้าย ณ Autodromo Nazionale di Monza ประเทศอิตาลี
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอร่วมแสดงความยินดีและภาคภูมิใจต่อความสำเร็จของ “เติ้น-ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์” นักแข่งดาวรุ่งชาวไทยจาก AAS Motorsport ซึ่งลงแข่งขันในสังกัดทีม Campos Racing และรถหมายเลข 11 ในศึก FIA Formula 3 Championship 2025 โดยสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างยิ่งใหญ่ในการแข่งขันสนามสุดท้ายของฤดูกาลที่ Autodromo Nazionale di Monza ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 5–7 กันยายน 2568
การแข่งขันครั้งนี้ “เติ้น ทัศนพล” เริ่มต้นด้วยผลงานที่โดดเด่นในรอบซ้อมและรอบควอลิฟาย (Qualifying) ของกลุ่ม A ทำเวลาได้ดีที่สุดที่ 1:38.626 นาที อยู่ในอันดับ 2 และได้ออกสตาร์ทในกริดที่ 4 (P4) ของรอบเมนเรซ (Feature Race) ตามระบบการจัดอันดับกริดสตาร์ท ด้วยฟอร์มอันแข็งแกร่งและการขับที่มั่นใจ เขาสามารถสร้างผลงานยอดเยี่ยม คว้าชัยชนะอันดับ 1 ใน Feature Race ได้สำเร็จ ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันอันเข้มข้นและแฟนความเร็วทั่วโลกที่ติดตาม
ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็น สนามที่ 3 ของฤดูกาล ที่นักแข่งไทยสามารถก้าวขึ้นโพเดียมสูงสุดได้ และยังมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีม Campos Racing สร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ประเภททีม (Teams’ Championship) ในศึก FIA Formula 3 ได้เป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งหลักไมล์สำคัญที่สะท้อนศักยภาพของนักกีฬามอเตอร์สปอร์ตไทยในระดับนานาชาติ
จากผลงานตลอดฤดูกาล 2025 “เติ้น ทัศนพล” สามารถเก็บคะแนนสะสมจนจบในอันดับที่ 7 ของตารางคะแนนรวม (Driver Standings) แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น อดทน และพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของนักกีฬาไทยบนเวทีโลก พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนรุ่นใหม่ที่ใฝ่ฝันจะก้าวสู่เส้นทางกีฬามอเตอร์สปอร์ต
ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงเป็น ความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ยังตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะประเทศที่เต็มไปด้วยศักยภาพด้านกีฬา ควบคู่ไปกับความพร้อมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถใช้เป็นพลังในการขับเคลื่อน Soft Power และสร้างคุณค่าใหม่ให้กับประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะยังคงสนับสนุนการพัฒนานักกีฬาไทยในทุกมิติ เพื่อยกระดับชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์บนเวทีโลกต่อไป