กรมทางหลวง เปิดใช้ 4 เลน ถนนสายหอรบ–ทุ่งเสลี่ยม หนุนโลจิสติกส์และท่องเที่ยว เชื่อมสุโขทัย-ลำปาง

กรมทางหลวง เปิดใช้ 4 เลน ถนนสายหอรบ–ทุ่งเสลี่ยม หนุนโลจิสติกส์และท่องเที่ยว เชื่อมสุโขทัย-ลำปาง

       กรมทางหลวง ดำเนินการโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 1048 สาย บ.หอรบ – บ.ทุ่งเสลี่ยม จากขนาด 2 ช่องจราจร เป็นขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 15.325 กิโลเมตร แล้วเสร็จ เพื่อยกระดับโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดลำปาง เพิ่มศักยภาพการขนส่งและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่

       นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยทางหลวงสายนี้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย (ทล.101) กับ อ.เถิน จ.ลำปาง (ทล.1) ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณการจราจรเพิ่มสูงขึ้นและมีไหล่ทางแคบ ดังนั้นการขยายทางหลวงเป็น 4 ช่องจราจรจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความปลอดภัยในการเดินทาง อีกทั้งยังเป็นเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น อุทยานแห่งชาติแม่วะ เป็นต้น

       สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1048 สาย บ.หอรบ – บ.ทุ่งเสลี่ยม ประกอบด้วย 2 ช่วง ได้แก่

    • ช่วงที่ 1 ระหว่าง กม.54+000.000 – กม.63+575.000
    • ช่วงที่ 2 ระหว่าง กม.65+550.000 – กม.71+300.000

       มีระยะทางยาวประมาณ 15.325 กิโลเมตร ในพื้นที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย วงเงินงบประมาณ 699,495,000 บาท มีรูปแบบการก่อสร้าง 3 รูปแบบหลัก ดังนี้

    1. รูปแบบทั่วไป ขยายช่องจราจรเป็นขนาด 4 ช่องจราจร กว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.50 เมตร พร้อมเกาะกลางแบบกำแพงคอนกรีต (Single Slope Concrete Barrier).และ เกาะกลางถนนแบบยก (Raised Median) และติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดเส้นทาง
    2. รูปแบบในช่วงชุมชน ก่อสร้างเต็มเขตทาง 40.00 เมตร พร้อมทางเท้า และระบบระบายน้ำ ไฟฟ้าแสงสว่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่
    3. รูปแบบทางแยก ปรับปรุงทางแยกที่ กม.59+231.401 และ กม.69+960.000 เป็นผิวจราจรคอนกรีต (JPCP) พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและสัญญาณไฟจราจรเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่

       “กรมทางหลวงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่ายทางหลวงให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสำคัญที่ช่วยลดระยะเวลาการเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวระหว่างภาคเหนือตอนล่างและภาคเหนือตอนบนได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายอภิรัฐ กล่าวทิ้งท้าย

       ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทาง สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)