นายกรัฐมนตรี มอบอำนาจกองทัพตัดสินใจเปิด – ปิดด่าน ย้ำไม่เจรจาหากกัมพูชายังใช้โล่มนุษย์สร้างความวุ่นวาย
นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา โดยยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะไม่ยอมรับเงื่อนไขจากฝ่ายกัมพูชา และจะเจรจาได้ก็ต่อเมื่อกัมพูชายุติการใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์สร้างความวุ่นวาย พร้อมมอบอำนาจให้กองทัพตัดสินใจเรื่องการเปิด – ปิดด่าน การสร้างรั้ว และการปักธงในพื้นที่ชายแดนตามความเหมาะสม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยระบุชัดเจนว่า รัฐบาลไทยจะไม่ยอมรับเงื่อนไขใด ๆ จากฝ่ายกัมพูชา และจะเดินหน้าเจรจาบนพื้นฐานของผลประโยชน์และอธิปไตยของไทยเท่านั้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มอบอำนาจให้กองทัพเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องการเปิด–ปิดด่าน รวมถึงการสร้างรั้วแนวชายแดน โดยฝ่ายทหารจะเป็นผู้กำหนดแนวทางตามสถานการณ์ ส่วนรัฐบาลจะดำเนินการด้านการทูตควบคู่กัน พร้อมยืนยันว่า “จะไม่มีการต่อรองใด ๆ จนกว่ากัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายไทย”
ในส่วนพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งยังพบอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ของกัมพูชาบินวน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากทหารเห็นสมควรจะปักธงตรงไหน เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของแผ่นดิน ก็ให้ดำเนินการได้ทันที เพื่อให้ประชาชนไทยเกิดความมั่นใจว่าทุกตารางนิ้วจะได้รับการปกป้อง
ไทยโต้กัมพูชา กรณีแถลงการณ์ประท้วง
- ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2568 ประท้วงไทย โดยกล่าวหาว่าฝ่ายไทยพยายามบังคับใช้กฎหมายภายในกับพลเมืองกัมพูชาในพื้นที่พิพาท หมู่บ้านโจกเจย และหมู่บ้านไปรจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งถือเป็นการละเมิดพันธกรณีตามกฎบัตรสหประชาชาติและ MOU 2000
- พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริง เพราะพื้นที่ที่ไทยดำเนินการนั้นอยู่ในเขตอธิปไตยของไทยโดยชัดเจน ไม่ใช่พื้นที่พิพาท และไทยมีสิทธิในการบังคับใช้กฎหมายตามหลักสากลที่ทุกประเทศยอมรับ
- พร้อมย้ำว่า หากพูดถึงการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติจริง ๆ ฝ่ายกัมพูชาต่างหากที่มักเป็นฝ่ายรุกราน ทั้งการนำกำลังทหารติดอาวุธเข้ามาในดินแดนไทย รวมถึงการลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงแล้วก็ตาม
ประเด็น MOU 2000 และข้อพิพาทชายแดน
- ฝ่ายไทยยืนยันว่า ปฏิบัติตาม MOU 2000 และกรอบการทำงานของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) มาโดยตลอด แม้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ไทยได้ยื่นประท้วงกว่า 500 ครั้งกรณีที่กัมพูชาปล่อยให้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างและขยายชุมชนในเขตแดน แต่กัมพูชาเพิกเฉย ไม่ยอมแก้ไข
- ส่วนกรณีที่สำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชากล่าวหาเพจ “Royal Thai Army: Update” ว่าเผยแพร่แผนที่บิดเบือน พลตรี วินธัย ชี้แจงว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงบันทึกการประชุมร่วมเมื่อปี 2560 ที่ใช้พิกัดหลักเขตแดนเพื่อทำแผนภาพเบื้องต้น ไม่ใช่แผนที่ยืนยันเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
สถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่อง
- วันที่ 21 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ทหารรายงานสถานการณ์ตึงเครียดในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว โดยพบว่ามีประชาชนกัมพูชาหลายร้อยคนรวมตัวอยู่บริเวณใกล้หลักเขตแดน 46 และลวดหนามป้องกันความปลอดภัย แต่ยังไม่มีท่าทีรุนแรง ขณะที่ฝ่ายไทยคงกำลังดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง
- พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 กองกำลังบูรพา ยืนยันว่า ไทยพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ โดยประชาชนกัมพูชาส่วนใหญ่ได้ทยอยล่าถอยกลับไป แต่ทหารไทยยังคงเตรียมความพร้อมสูงสุด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด
ที่มา : เว็บไซต์ กรมประชาสัมพันธ์