กรมสุขภาพจิต เตือนรับมือพายุคาจิกิ–หนองฟ้า ดูแลสุขภาพกายใจ พร้อมจัดทีม MCATT เฝ้าระวังและเยียวยาจิตใจ
กรมสุขภาพจิต เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือพายุคาจิกิ – พายุหนองฟ้า เน้นดูแลสุขภาพกายใจ ผู้ป่วยต้องไม่ขาดยา พร้อมบูรณาการทีม MCATT เขตสุขภาพที่ 1, 2 และ 3 เฝ้าระวังสถานการณ์ทางใจ พร้อมเตรียมแผนในการเยียวยาจิตใจอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์พายุคาจิกิและพายุหนองฟ้าที่ก่อให้เกิดฝนตกหนักน้ำท่วม และสร้างความเสียหายแก่หลายพื้นที่ทั่วประเทศ กรมสุขภาพจิตมีความห่วงใยต่อสุขภาพจิตของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องและไม่ควรขาดยารักษาโรค จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจภายใต้แนวทาง “รับมือ เตรียมใจ ปลอดภัย ไม่ขาดยา” โดยขอเน้นย้ำการปฏิบัติตาม 5 วิธีสำคัญ ได้แก่
- จัดเตรียมยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้เพียงพอ หากใกล้หมดควรรีบติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อขอรับยาเพิ่มเติม
- ติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างฉับพลัน
- เฝ้าระวังอาการกำเริบจากความเครียดหรือการขาดยา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับ พูดคนเดียว เดินไปเดินมาอย่างกระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย หรือมีอาการหวาดระแวง หากพบควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยทันที
- พูดคุยหรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ เพื่อสร้างความสงบและลดความตึงเครียด
 
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือสายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อรับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมทั้งเหตุเขื่อนแตกที่เกิดขึ้น ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงจากการที่พายุอาจเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่อีกครั้ง กรมสุขภาพจิตจึงได้จัดส่งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) ลงพื้นที่เพื่อให้การดูแล ฟื้นฟู และประสานงานร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตได้กำหนดข้อสั่งการเพิ่มเติม ได้แก่
- ให้มีการจัดทำข้อมูลผลการเยียวยาจิตใจแยกตามระดับความใกล้ชิดเหตุการณ์ (Proximity) เพื่อสะท้อนภาพรวมและประสิทธิภาพของการดูแลด้านสุขภาพจิตอย่างรอบด้าน
- ให้มีการรายงานผลการเยียวยาจิตใจกรณีได้รับผลกระทบจากพายุคาจิกิและพายุหนองฟ้าอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนและพัฒนาการช่วยเหลือในระยะต่อไป
 
ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เน้นการดูแลสุขภาพจิตควบคู่กับสุขภาพกาย พร้อมขอเชิญชวนประชาชนร่วมปฏิบัติตามหลัก “3 ส. เยียวยาใจ” ได้แก่ สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟัง และส่งต่อเชื่อมโยง และหากมีความเครียด วิตกกังวล หรือความทุกข์ใจ สามารถขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสายด่วนสุขภาพจิต 1323
ที่มา : Website กรมสุขภาพจิต

