กระทรวงสาธารณสุข สั่งติดตามเฝ้าระวังพายุ “แมตโม” หวั่นน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่โรงพยาบาล
กระทรวงสาธารณสุข สั่งติดตามเฝ้าระวังพายุ “แมตโม” หวั่นน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่โรงพยาบาล กำชับป้องกันอุปกรณ์ทางการแพทย์ เตรียมทีมดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยและกลุ่มเปราะบาง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ห่วง “พายุแมตโม” เพิ่มฝนตกหนักภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก และภาคใต้ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม กำชับพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ป้องกันสถานพยาบาล ย้ายเครื่องมือแพทย์ขึ้นที่สูง เพื่อลดความเสียหาย พร้อมเตรียมทีมทางการแพทย์ดูแลสุขภาพประชาชน ปรับการให้บริการนอกสถานพยาบาล สื่อสารถึงประชาชนให้ระมัดระวังโรคและภัยสุขภาพจากพายุฝน น้ำท่วมฉับพลัน
วันนี้ (4 ตุลาคม 2568) นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนอิทธิพลของพายุโซนร้อน “แมตโม” ที่มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ช่วงวันที่ 5-6 ตุลาคม 2568 จากนั้นจะอ่อนกำลังลง ส่งผลให้ประเทศไทยช่วงวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก อาจเกิดฝนตกหนักและฝนตกสะสม ทำให้เกิดน้ำท่วมขังฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขังจึงได้กำชับให้หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี สถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม โดยให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เน้นมาตรการป้องกันภัยจากน้ำท่วมเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสถานพยาบาล อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เตรียมการดูแลสุขภาพผู้ประสบภัยและกลุ่มเปราะบาง และสื่อสารความเสี่ยงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าวต่อประชาชน ทั้งโรคที่มากับน้ำท่วม อุบัติเหตุฟ้าผ่า จมน้ำ ไฟฟ้าช็อต และสัตว์มีพิษ
ด้าน นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้กำชับให้สำนักงานเขตสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รวมถึงสถานพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง เตรียมความพร้อมตามเตรียมเผชิญเหตุ กรณีสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งหรือพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังพิเศษ เพื่อให้ตอบสนองได้ทันเหตุการณ์และสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการขนย้ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ขึ้นที่สูง จัดเตรียมการให้บริการนอกสถานพยาบาล ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ แผนอพยพเคลื่อนย้ายหรือส่งต่อผู้ป่วย พร้อมเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วม ทั้งกลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินหายใจ โรคที่มียุงเป็นพาหะ โรคติดเชื้อต่างๆ รวมถึงดูแลสุขอนามัยของประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราว กรณีบุคลากรทางการแพทย์ได้รับผลกระทบให้จัดสถานที่พักสำรองในพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงสำรองยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการป้องกันและควบคุมโรคที่มากับน้ำท่วม และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายให้เร่งสำรวจความเสียหาย ความแข็งแรงของอาคารและสิ่งก่อสร้าง พร้อมฟื้นฟูซ่อมแซมให้มีความปลอดภัย กลับมาให้บริการได้ตามปกติโดยเร็ว