กทม. ยืนยัน “ไม่มีนโยบายเซ็นเซอร์งานศิลปะ” มุ่งส่งเสริมย่านสร้างสรรค์

กทม. ยืนยัน “ไม่มีนโยบายเซ็นเซอร์งานศิลปะ” มุ่งส่งเสริมย่านสร้างสรรค์

        กรุงเทพมหานคร ยืนยัน “ไม่มีนโยบายเซ็นเซอร์งานศิลปะ” มุ่งส่งเสริมย่านสร้างสรรค์ จากกรณีภาพวาดของศิลปิน Mimi Tibayrenc บนผนังโรงแรม ย่านสุรวงศ์ ถูกเซ็นเซอร์จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์นั้น

        กรุงเทพมหานคร ขอเรียนว่า กทม. ไม่มีนโยบายในการเซ็นเซอร์งานศิลปะ โดยบทบาทของ กทม.คือการส่งเสริม สนับสนุนศิลปิน และประสานความร่วมมือระหว่าง ชุมชน และภาคธุรกิจ ในการพัฒนา “ย่านสร้างสรรค์ (Creative District)” และโครงการ Street Art ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของพื้นที่

        สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและตกหล่นในการสื่อสารระหว่างศิลปิน และเจ้าของสถานที่ในระหว่างขั้นตอนการทำงาน จึงนำไปสู่การปรับแต่งภาพบางส่วน เพื่อให้ผลงานเหมาะสมกับบริบทของโรงแรมและพื้นที่โดยรอบของชุมชน

       กรุงเทพมหานครขอยืนยันอีกครั้งว่า พร้อมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างศิลปินและเจ้าของพื้นที่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมงานศิลปะในพื้นที่สาธารณะ และจะนำบทเรียนในครั้งนี้ ไปใช้พัฒนากระบวนการในการทำงานใหม่อีกครั้ง เพื่อมุ่งพัฒนา “กรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งความสร้างสรรค์”

         กรุงเทพมหานคร ขอเรียนว่า กทม.ไม่มีนโยบายในการเซ็นเซอร์งานศิลปะ โดยบทบาทของ กทม.คือการส่งเสริม สนับสนุนศิลปิน และประสานความร่วมมือระหว่าง ชุมชน และภาคธุรกิจ ในการพัฒนา “ย่านสร้างสรรค์ (Creative District)” และโครงการ Street Art ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของพื้นที่

         สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและตกหล่นในการสื่อสารระหว่างศิลปินและเจ้าของสถานที่ในระหว่างขั้นตอนการทำงาน จึงนำไปสู่การปรับแต่งภาพบางส่วน เพื่อให้ผลงานเหมาะสมกับบริบทของโรงแรมและพื้นที่โดยรอบของชุมชน

         โดยในขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจและสร้างข้อตกลงร่วมกันอีกครั้ง และมีความยินดีร่วมกันในการเชิญศิลปินกลับมาปรับแต่งผลงานเพิ่มเติม เพื่อให้กลับมาเป็นผลงานที่สมบูรณ์และสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ของย่านบางรักได้อย่างสวยงามลงตัวและเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่มากที่สุด

         เมื่อเทียบกรณีนี้กับเหตุพ่นสีทับภาพในซอยเจริญกรุง 30 จึงถือเป็นเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากเหตุการณ์ที่ซอยเจริญกรุง 30 เป็นการทำลายผลงานโดยบุคคลภายนอก ซึ่ง กทม. และผู้จัดโครงการได้ดำเนินการทางกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของศิลปินและเจ้าของพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         กรุงเทพมหานครขอยืนยันอีกครั้งว่า พร้อมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างศิลปินและเจ้าของพื้นที่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมงานศิลปะในพื้นที่สาธารณะ และจะนำบทเรียนในครั้งนี้ไปใช้พัฒนากระบวนการในการทำงานใหม่อีกครั้ง เพื่อมุ่งพัฒนา “กรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองแห่งความสร้างสรรค์” ที่ทุกคนมีส่วนร่วมต่อไป