เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบาย หลังฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบาย หลังฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน เผยปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้นจากอิทธิพลฝนตกต่อเนื่อง ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ส่งผลให้ระดับน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำต่าง ๆ มีแนวโน้มสูงขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำจากทางตอนบนและฝนที่ยังตกต่อเนื่อง เขื่อนเจ้าพระยา จะทยอยเพิ่มการระบายน้ำตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 2,400 เป็น 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ภายในเวลา 15.00 น. (เพิ่มชั่วโมงละประมาณ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) และจะคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง
กรมชลประทานเปิดเผยว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. ของวันนี้(18 ต.ค.68) ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,839 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่สถานี ct.25 แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 125 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะไหลมาสมทบบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลต่อเนื่องให้ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,400 ลบ.ม./วินาที และมีแนวโน้มเพิ่ม
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนที่ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่องและฝนที่ตกในระยะนี้ เขื่อนเจ้าพระยา จะทยอยปรับเพิ่มการระบาย ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จากอัตรา 2,400 ลบ.ม./วิ เป็นอัตรา 2,500 ลบ.ม./วิ ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (ชั่วโมงละ 15 ลบ.ม./วิ โดยประมาณ) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณ
📍คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง
📍 วัดไชโย จังหวัดอ่างทอง
📍อำเภอป่าโมก จังหวะดอ่างทอง
📍คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา
📍ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย
📍 วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
📍 อำเภอเมืองสิงห์บุรี
📍 อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
📍วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
📍ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท
เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูง หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์