อย. แนะนำลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่นอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันภูมิแพ้จากไรฝุ่น

อย. แนะนำลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่นอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันภูมิแพ้จากไรฝุ่น

       สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แนะนำเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่นอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันภูมิแพ้จากไรฝุ่นและมูลไรฝุ่นที่มักสะสมในที่นอน ผ้าห่ม และพื้นที่อับชื้น

       สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แนะนำเลือกซื้อ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่นซึ่งเป็นต้นเหตุของภูมิแพ้ ไรฝุ่นเจ้าแมลงขนาดเล็กที่ไม่สามามรถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มักจะอาศัยอยู่ตามที่มืด เติบโตได้ดีในที่ที่มีความชื้น จึงมักพบได้บริเวณที่นอน หรือผ้าห่ม ซึ่งทั้งเจ้าตัวไรฝุ่น และมูลไรฝุ่นอาจเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ เราจึงควรดูแลที่อยู่อาศัยให้สะอาดรวมถึงกำจัดฝุ่นและไรฝุ่นเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภูมิแพ้

สำหรับการกำจัดและป้องกันไรฝุ่น ทำอย่างไรได้บ้าง

    • ซักและทำความสะอาดเครื่องนอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส
    • หลีกเลี่ยงการใช้ที่นอนที่ทำมาจากขนแกะ หรือขนสัตว์โดยเปลี่ยนมาใช้ใยสังเคราะห์แทน
    • ใช้ผ้าเปียกหมาด ๆ ในการทำความสะอาด หรือทำความสะอาดบ้านด้วยเครื่องดูดฝุ่น
    • นำเครื่องนอน ไปตากแดดจัด ๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป
    • ทำให้บ้านมีอากาศถ่ายเทเพื่อลดความชื้นที่ช่วยให้ไรฝุ่นเจริญเติบโต
    • หลีกเลี่ยงการนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปยังห้องนอน
    • ใช้ผ้าปิดจมูก หรือสวมหน้ากากป้องกันทุกครั้งเวลาทำความสะอาดบ้าน


       การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่นบ้านนั้น ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. และมีการแสดงเลขทะเบียน วอส.ในกรอบเครื่องหมาย อย. ควรอ่านฉลากก่อนใช้และปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลากอย่างเคร่งครัด

การใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่น

    • สำหรับที่นอน ฉีดผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่นให้ทั่วที่นอนแล้วใช้ผ้าห่มหรือพลาสติกคลุมทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง แล้วจึงเปิดผ้าคลุมออก ทิ้งไว้จนกลิ่นจางลงจึงใช้ได้
    • สำหรับผ้าห่ม หมอน ตุ๊กตา โซฟา ฉีดสเปรย์ให้สัมผัสโดยตรง ทิ้งไว้จนกลิ่นจางลงจึงใช้ได้
    • ควรเก็บผลิตภัณฑ์ในที่มิดชิด ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ควรปิดฝาให้สนิทและอย่าให้ถูกแสงแดด เปลวไฟ หรือความร้อน
    • ระวังอย่าให้ละออง เข้าตา ปาก หรือจมูกเมื่อเสร็จจากการใช้แล้วต้องรีบล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำ และสบู่ทุกครั้ง
    • อย่าฉีดพ่นในห้องที่มีเด็กอ่อนหรือผู้ป่วย