พิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ​สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง​

พิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง​

กำหนดการสำหรับประชาชน (กรุงเทพฯ)

** การเดินทาง**
แนะนำใช้รถโดยสารสาธารณะ (เนื่องจากไม่มีที่จอดรถ)

  • วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00–12.00 น.
  • สถานที่: ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง
  • เปิดให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์
  • เต็นท์พักคอย: 
    –  เปิดให้เข้าพื้นที่เต็นท์พักคอย ตั้งแต่เวลา 06.00 น.
    –  ใช้เส้นทางเดินถนนกลางสนามหลวง เพื่อเข้าสู่เต็นท์พักคอย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสนามหลวงฝั่งด้านหน้าศาลฎีกา (สามารถเข้าได้ทั้งฝั่ง ม.ธรรมศาสตร์และฝั่งศาลฎีกา)
  • การคัดกรอง: ทุกท่านต้องผ่านจุดคัดกรองและรอคิวบริเวณเต็นท์พักคอย (เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงหรือพาสปอร์ตตัวจริง เพื่อแสดงตน)
  • การแต่งกาย : ชุดสุภาพไว้ทุกข์สีขาวหรือสีดำ (ไม่สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อแขนกุด ไม่สวมรองเท้าแตะ งดเสื้อคอกลม ส่วนสุภาพสตรี สวมกระโปรงสุภาพคลุมเข่าเท่านั้น งดนุ่งกางเกง)
  • สิ่งของที่ควรนำติดตัว : ยาประจำตัว, อุปกรณ์กันแดด (สีสุภาพ), เขียนชื่อเบอร์โทรญาติใส่ในกระเป๋าเด็กและผู้สูงอายุ (ป้องกันการพลัดหลง)
  • กรณีมาถึงหลังเวลา 12.00 น. สามารถนั่งชมภาพ/การถ่ายทอดสด ผ่านทางจอที่จัดเตรียมไว้จํานวนมาก บริเวณเต้นท์ ณ ท้องสนามหลวง มีโรงครัวพระราชทาน

กำหนดการสำหรับประชาชนในต่างจังหวัด

     ขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

    • วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.00 น.
    • สถานที่ : ณ สถานที่ที่จังหวัดและอำเภอกำหนดทั่วประเทศ 
    • การแต่งกาย : ชุดสุภาพไว้ทุกข์สีขาวหรือสีดำ (ไม่สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อแขนกุด ไม่สวมรองเท้าแตะ)
    • อ่านเพิ่มเติม

การเดินทางเข้าร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระบรมศพ

รถโดยสารเส้นทางปกติ ผ่านสนามหลวง จำนวน 18 เส้นทาง

  1. สาย 3 (2-37): สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) – สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี
  2. สาย 15 (4-2): วงกลม : สถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู – สยาม
  3. สาย 25 (3-7E): แพรกษา – ท่าช้าง (ทางด่วน)
  4. สาย 32 (2-5): ท่าเรือปากเกร็ด – วัดโพธิ์
  5. สาย 47 (3-41): ท่าเรือคลองเตย – สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย
  6. สาย 53 (2-9): วงกลม : สนามหลวง – เทเวศร์
  7. สาย 59 (1-8): รังสิต – สนามหลวง
  8. สาย 60 (1-38): สวนสยาม – สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย
  9. สาย 70 (2-14): ประชานิเวศน์ 3 – สนามหลวง
  10. สาย 80 (4-43): วัดศรีนวลธรรมวิมล – สนามหลวง
  11. สาย 91: หมู่บ้านเศรษฐกิจ – สนามหลวง
  12. สาย 91ก: วิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี – สนามหลวง
  13. สาย 501 (1-53): หมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง – ท่าช้าง
  14. สาย A4
  15. สาย S1: ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง (ทางด่วน)
  16. สาย 1-7E: ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง (ทางด่วน)
  17. สาย 1-80E
    : รังสิต – สนามหลวง (ทางด่วน)
    : สวนสยาม – สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย (ทางด่วน)
  18. สาย 2-32E: ประชานิเวศร์ 3 – สนามหลวง (ทางด่วน)

รถโดยสาร Shuttle Bus (บริการฟรี)

  • จุดรับ-ส่งประชาชน บริเวณถนนหน้าพระลาน และจุดจอดรถบริเวณอนุสาวรีย์ทหารอาสา หน้าโรงละครแห่งชาติ (ท่าปล่อยรถสาย 59, A4, S1)
  • เวลาให้บริการ 08.00 – 20.00 น. หรือจนกว่าประชาชนจะหมด

เชื่อมต่อสถานีขนส่งและจุดสำคัญ เส้นทางทางละ 10 คัน

    1. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งพญาไท) – สนามหลวง
    2. สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สนามหลวง
    3. สายใต้ใหม่ – สนามหลวง
    4. สถานีหัวลำโพง – สนามหลวง
    5. สถานีเอกมัย – สนามหลวง 
    6. บางใหญ่ – สนามหลวง
    7. สนามราชมังคลากีฬาสถาน- สนามหลวง
    8.  สถานีขนส่งผู้โดยสาร (หมอชิต 2) – สนามหลวง

เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า

    1. สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
      • สถานีท่าพระ – สนามหลวง จํานวน 5 คัน
      • สถานีสนามไชย – สนามหลวง จํานวน 3 คัน
      • สถานีสามยอด – สนามหลวง จํานวน 3 คัน
    2. สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว
      1. สถานีสยาม – สนามหลวง จํานวน 3 คัน
      2. สถานีวงเวียนใหญ่ – สนามหลวง จํานวน 5 คัน

เชื่อมต่อเรือโดยสาร

    • ท่าเรือโดยสารสะพานผ่านฟ้า – สนามหลวง จํานวน 2 คัน

บริการเรือโดยสารสาธารณะ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

กระทรวงคมนาคม โดย กรมเจ้าท่า ร่วมกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์ธนนคร และบริษัท สุภัทราโบ้ท จัดบริการเรือโดยสารสาธารณะ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 ในเส้นทาง ดังนี้

  1. รับ – ส่ง ท่าเรือวัดระฆัง – ท่าเรือวัดอรุณฯ – ท่าช้าง(วังหลวง)
    ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น.
  2. รับ – ส่ง ท่าเรือวังหลัง – ท่าเรือท่าช้าง – ท่าเรือวัดระฆัง
    ตั้งแต่เวลา 06.00 – 12.00 น.
  3. ให้บริการเรือข้ามฟากเส้นทาง วัดอรุณฯ – ท่าเตียน
    ตั้งแต่เวลา 06.00 – 12.00 น.

อ่านเพิ่มเติม

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

จัดพ่วงตู้โดยสารพิเศษเพิ่มในขบวนรถปกติทุกเส้นทาง และเตรียมขบวนรถไฟพิเศษ รองรับประชาชนในวันที่มีกิจกรรมพิเศษอย่างน้อย 3 เส้นทาง ได้แก่

      • กรุงเทพฯ – อยุธยา – กรุงเทพฯ
      • กรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพฯ
      • กรุงเทพฯ – นครปฐม – กรุงเทพฯ
      • พร้อมประสานการเดินทางเชื่อมต่อกับ ขสมก. เพื่อรับ–ส่งผู้โดยสารระหว่างสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ถึงท้องสนามหลวง

จุดจอดรถสำหรับประชาชน ที่เข้าร่วมถวายความอาลัย

จุดจอดรถมีค่าใช้จ่าย (พื้นที่เอกชน)

  • วัดมหาราตุฯ 80 คัน
  • ท่ามหาราช 150 คัน
  • วัดชนะสงครามฯ 50 คัน
  • ตรอกสาเก 80 ค้น
  • วัดบวรนิเวศ (ลานด้านหน้า 80 คัน | อาคารจอด 180 คน)
  • จุดจอดรถ กทม. (ถ.โกรสีห์) 200 คัน

จุดจอดรถไม่มีค่าใช้จ่าย (เปิดให้บริการฟรี)

  • กองสลาก(เก่า) 50 คัน
  • วัดมกุฎกษัตริยารามฯ 100 คัน
  • วัดโสมนัสราชวรวิหาร 100 คัน
  • ถ.นครปฐม 40 คัน
  • ถ.ลูกหลวง 40 คัน
  • ลานจอด บ.ทรัพย์สิน (สะพานขาว) 200 คัม
  • ถ.กำแพงเพชร 5 หลัง รพ.รามาฯ 80 คัน
  • รร.ศรีอยุธยา 100 คัน

จุดจอดรถหน่วยงานรัฐ (รองรับเฉพาะเจ้าหน้าที่)

  • กรมการสารวัตรทหารบก 100 คัน (ตำรวจ)
  • รร.สันติราษฎร์ 20 คัน (หน่วยงานรัฐ)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

  • สน.พญาไท 0 2354 6958
  • สน.ชนะสงคราม 0 2282 3166
  • สน.นางเลิ้ง 0 2281 3002
  • สน.ดุสิต 0 2241 5043

วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สำหรับผู้ที่เข้าร่วมถวายความอาลัย

       เนื่องจากการเข้าร่วมถวายความอาลัยพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 26 ตุลาคม 2568 อาจมีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงการเป็นลมหมดสติ

  • หากผู้ป่วยยังรู้สึกตัว
    • ให้นั่งพัก สูดหายใจลึกๆ และอยู่ที่อากาศถ่ายเท
  • หากผู้ป่วยหมดสติ
    • ให้ผู้ป่วยนอนราบ ศีรษะต่ำกว่าเท้า
    • คลายเสื้อผ้าออก
    • กันไม่ให้คนมุง เพื่อให้อากาศถ่ายเท
    • ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น เช็ดหน้า ลำคอ และแขนขา
    • ห้ามให้กินหรือดมหากผู้ป่วยยังไม่ได้สติ
    • เมื่อผู้ป่วยได้สติ ให้พัก ห้ามลุกทันที
    • สามารถให้กินหรือจิบน้ำหวานได้หากผู้ป่วยรู้สึกตัวดีแล้ว
  • หากผู้ป่วยไม่หายใจ หายใจเฮือก หรือหัวใจเต้นผิดปกติ
    • ให้รีบโทร 1669 และเริ่มทำการ CPR ทันที