กกต. แจ้งเตือนไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่น สส. หรือออกเสียงประชามติ ถูกจำกัดสิทธิทางการเมือง 2 ปี
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งเตือนหากผู้มีสิทธิไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (อบต. เทศบาล หรือ อบจ.) ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หรือไม่ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ และไม่ได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ หรือได้แจ้งแล้วแต่เหตุนั้นไม่ใช่เหตุอันสมควร จะถูกจำกัดสิทธิตามกฎหมายเหมือนกันเป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้งหรือวันออกเสียงประชามติ
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์สาระน่ารู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและออกเสียงประชามติว่า หากผู้มีสิทธิไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (อบต. เทศบาล หรือ อบจ.) ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หรือไม่ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ และมิได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ หรือได้แจ้งแล้วแต่เหตุนั้นไม่ใช่เหตุอันสมควรจะถูกจำกัดสิทธิตามที่กฎหมายกำหนดเหมือนกันเป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้งหรือวันออกเสียงประชามติ
สิทธิที่ถูกจำกัดเหมือนกัน มี 4 ข้อ
- สมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นหรือสมัครรับเลือกเป็น สว.
- สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่
- ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา
- ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
 
 
สิทธิที่ถูกจำกัดเพิ่มเติม
กรณีที่ไม่ไปเลือกตั้ง “สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น”
ถูกจำกัดสิทธิเพิ่มอีก 2 ข้อ คือ
- เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
- ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น
 
 
กรณีที่ไม่ไปเลือกตั้ง “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)”
ถูกจำกัดสิทธิเพิ่มอีก 1 ข้อ คือ ไม่สามารถยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง สส. ได้
กรณีที่ไม่ไป “ออกเสียงประชามติ”
       ถูกจำกัดสิทธิเพิ่มอีก 1 ข้อ คือ ไม่สามารถเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติได้
       การจำกัดสิทธิมีกำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง / ออกเสียงประชามติ ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และหากในการเลือกตั้ง / ออกเสียงประชามติ ครั้งต่อไป ผู้นั้นไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีก ให้เริ่มนับเวลาการจำกัดสิทธิใหม่ หากกำหนดเวลาการจำกัดสิทธิครั้งก่อนยังเหลืออยู่เท่าใด ให้กำหนดเวลาการจำกัดสิทธินั้นสิ้นสุดลง รวมถึงการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างด้วย (เช่น นาย ก ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 68 และไม่แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ จึงถูกจำกัดสิทธิเป็นเวลา 2 ปี (1 ก.พ. 68 – 31 ม.ค. 70) และเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 68 ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเทศบาล นาย ก ก็ยังไม่ได้สิทธิกลับมา เพราะยังถูกจำกัดสิทธิการเลือกตั้ง อบจ. อยู่ จะพ้นเมื่อ 31 ม.ค. 70) ดังนั้น ประชาชนทุกคนต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง / ออกเสียงประชามติ
       สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการออกเสียงประชามติ ได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือบริการสายด่วน 1444

