การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ติดตามการช่วยเหลือสนับสนุนกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ติดตามการช่วยเหลือสนับสนุนกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

PEA ประชุมติดตามการช่วยเหลือสนับสนุนกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ (ศอส.) สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 นายมงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นประธานประชุมติดตามการช่วยเหลือสนับสนุนกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ (ศอส.) เพื่อติดตามสถานการผณ์อุทกภัย ณ ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือสนับสนุนกรณีเหตุการณ์ไม่ปกติ (ศอส.) อาคาร SCADA สำนักงานใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผ่านระบบออนไลน์

จากสถานการณ์ฝนตกหนักและตกสะสมต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและเกิดสถานการณ์อุทกภัย ทำให้เกิดเหตุการณ์กระแสไฟฟ้าขัดข้อง ระบบโครงข่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้รับความเสียหาย ผู้ใช้ไฟได้รับผลกระทบ 113,533 ราย ผู้ใช้ไฟยังคงได้รับผลกระทบไฟดับ 71,198 ราย

ปัจจุบัน PEA นำรถ Mobile Generator จำนวน 11 คัน ที่ศูนย์พักพิงและโรงพยาบาล และ Generator ขนาดเล็ก 40 เครื่อง สนับสนุนการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ชุมชนขนาดเล็ก

การติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ศูนย์พักพิง จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย

  • มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.หาดใหญ่) 800 kW
  • สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านพรุ (เขตเลือกตั้งที่ 1) 500kW
  • อาคารลานกีฬาภาษีเจริญ / วัดเทพชุมนุม (เขตเลือกตั้งที่ 2) 300kW
  • โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองบ้านพรุ (เขตเลือกตั้งที่ 3) 300kW

โรงพยาบาล จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย

  • โรงพยาบาลหาดใหญ่ นำ Mobile Generator ไปสำรองจ่ายไฟแล้ว
  • โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี นำ Mobile Generator ไปสำรองจ่ายไฟแล้ว
  • โรงพยาบาลศิครินทร์ ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าแล้ว
  • โรงพยาบาลเซี่ยงตึ้ง ใช้ระบบไฟฟ้าสำรองของโรงพยาบาล ไม่สามารถนำ Mobile Generator ไปสำรองจ่ายไฟได้ เนื่องจากมีน้ำท่วมสูง

ทั้งนี้ PEA เร่งรัดดำเนินการจ่ายกระแสไฟฟ้าคืนกลับให้ผู้ใช้ไฟที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว เบื้องต้นมอบน้ำดื่มจำนวน 1,200 ขวด และแจกถุงยังชีพจำนวน 1,000 ชุด ให้ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

นอกจากนี้ ผู้ว่าการ PEA เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า โดยให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการย่อยเพื่อตรวจสอบและประเมินสถานการณ์พื้นที่ที่ระดับน้ำลด สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าคืนกลับสู่ภาวะปกติ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ