CAAT ออกประกาศฉบับที่ 11 ห้ามบินโดรนในบางอำเภอพื้นที่ 7 จังหวัด ปรับลดพื้นที่ห้ามบินเหลือ 6 แห่ง

CAAT ออกประกาศฉบับที่ 11 ห้ามบินโดรนในบางอำเภอพื้นที่ 7 จังหวัด ปรับลดพื้นที่ห้ามบินเหลือ 6 แห่ง

          สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกประกาศฉบับที่ 11 เรื่อง “ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา” โดยปรับลดพื้นที่ห้ามบินเด็ดขาดรอบสนามบินเหลือ 6 แห่ง และอนุญาตให้ปฏิบัติการบินหลัง 18.00 น. ได้ โดยต้องแจ้งขอปฏิบัติการบินแตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนดต่อ CAAT ก่อน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1–31 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

 

          สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 11 เรื่อง “ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา” หลังประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงพบว่ายังมีบางพื้นที่ที่ต้องคงมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปรับลดพื้นที่ห้ามบินเด็ดขาดรอบสนามบินเหลือ 6 แห่ง และอนุญาตให้ปฏิบัติการบินหลัง 18.00 น. ได้ โดยต้องแจ้งขอปฏิบัติการบินแตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนดต่อ CAAT ก่อน ทั้งนี้ ประกาศมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1–31 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง


พื้นที่ที่ห้ามบินเด็ดขาด

     • พื้นที่ในระดับอำเภอใน 7 จังหวัด ได้แก่

      • จังหวัดสระแก้ว อำเภอคลองหาด อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา
      • จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอละหานทราย และอำเภอบ้านกรวด
      • จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอภูสิงห์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอกันทรลักษ์
      • จังหวัดสุรินทร์ อำเภอพนมดงรักษ์ อำเภอกาบเชิง อำเภอสังขะ และอำเภอบัวเชด
      • จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอเขมราฐ อำเภอนาดาล อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอศรีเมืองใหม่ อำเภอโขงเจียม อำเภอสิรินธร อำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย และอำเภอน้ำยืน
      • จังหวัดตราด อำเภอเมืองตราด อำเภอบ่อไร่ และอำเภอคลองใหญ่
      • จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว

     • พื้นที่รัศมี 9 กิโลเมตร (5 ไมล์ทะเล) รอบสนามบินที่กำหนด ได้แก่ สนามบินโคราช สนามบินวัฒนานคร สนามบินตาคลี สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินอุบลราชธานี สนามบินสุรินทร์ภักดี
     • พื้นที่ที่หน่วยงานด้านความมั่นคงประกาศเพิ่มเติมเป็นการเฉพาะ


โดยมีเงื่อนไขในการทำการบิน ดังนี้

    • ผู้ใช้งานต้องขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรนและโดรนกับ CAAT ให้ถูกต้องครบถ้วน
    • ยื่นคำขออนุญาตปฏิบัติการบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ผ่านระบบแอปพลิเคชัน UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th
    • ปฏิบัติการบินที่ความสูงไม่เกิน 90 เมตร (300 ฟุต) เหนือพื้นดิน
    • สามารถบินได้ในเวลา 06.00–18.00 น. หากต้องการบินในช่วงเวลา 04.01 น. ถึง 05.59 น. หรือช่วงเวลา 18.01 น. ถึง 24.00 น. ให้ขอปฏิบัติแตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนดต่อ CAAT ช่องทาง UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th แต่ห้ามบินในช่วงเวลา 00.01–04.00 น. ทุกกรณี
    • เมื่อได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติการบินแล้ว ก่อนการปฏิบัติการบินทุกครั้ง ให้ผู้ได้รับอนุญาตแจ้งข้อมูลพื้นที่
    • ที่ปฏิบัติการบิน วันและเวลา และวัตถุประสงค์การปฏิบัติการบินต่อ CAAT ผ่านแอปพลิเคชัน UAS Portalและแจ้งต่อ ศบตอ.น. อีเมล : uasportal.caat.or.th
    • การปฏิบัติการบินที่แตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนด ต้องยื่นคำขออนุญาตและเอกสารเพิ่มเติมต่อ CAAT ผ่าน UAS Portal


          CAAT ระบุว่า การออกประกาศฉบับที่ 11 เป็นผลจากการประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่ายังมีบางพื้นที่ที่จำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมการบินโดรนอย่างเข้มงวดเพื่อรองรับภารกิจด้านความมั่นคงที่ยังดำเนินอยู่ ขณะเดียวกัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำรงชีวิตและการประกอบธุรกิจของประชาชนในวงกว้าง CAAT ได้ผ่อนคลายข้อจำกัดให้สามารถทำการบินโดรนได้ในหลายพื้นที่มากขึ้น ภายใต้เงื่อนไขด้านความปลอดภัยที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด


          CAAT จะติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างใกล้ชิด และพร้อมทบทวนมาตรการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความมั่นคงในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้การใช้งานโดรนของประเทศเป็นไปอย่างปลอดภัย ไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย และสามารถสนับสนุนกิจกรรมของประชาชนและภาคธุรกิจได้อย่างเหมาะสม