การรถไฟฯ ชี้แจงเหตุผู้โดยสารบาดเจ็บจากแรงกระแทกที่สถานีวังเย็น
การรถไฟฯ ชี้แจงเหตุผู้โดยสารบาดเจ็บบนขบวนท้องถิ่นที่ 486 ระหว่างสับเปลี่ยนรถจักรที่สถานีวังเย็น วันที่ 6 ธ.ค. 68 รถจักรดีเซลหมายเลข 4212 ชนต่อขบวนด้วยแรงกระแทก ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 13 ราย ผู้บาดเจ็บถูกส่งรักษาที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา 9 ราย และ รพ.ธนกาญจน์ 4 ราย
ส่วนอีกประมาณ 20 รายบาดเจ็บเล็กน้อยและปฐมพยาบาล ณ จุดเกิดเหตุ การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดรถบัสรองรับ 70 คน เดินทางต่อไปยังสถานีกาญจนบุรีและสะพานแม่น้ำแคว
พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลและเยี่ยมผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด
การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอชี้แจงกรณีเกิดเหตุผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บบนขบวนรถท้องถิ่นที่ 486 ระหว่างสถานีน้ำตก – กาญจนบุรี ขณะทำสับเปลี่ยนรถจักรที่สถานีวังเย็น เมื่อเวลา 17.02 น. ของวันที่ 6 ธันวาคม 2568 โดยจากรายงานแจ้งเหตุ พบว่า ในระหว่างการสับเปลี่ยนรถจักรดีเซลระหว่างขบวนรถที่ 259 และขบวนที่ 486 รถจักรดีเซลหมายเลข 4212 ได้เข้าต่อขบวนรถด้วยแรงกระแทก ทำให้มีผู้โดยสารบนขบวนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 13 ราย
การรถไฟแห่งประเทศไทย ขอชี้แจงกรณีเกิดเหตุผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บบนขบวนรถท้องถิ่นที่ 486 ระหว่างสถานีน้ำตก – กาญจนบุรี ขณะทำสับเปลี่ยนรถจักรที่สถานีวังเย็น เมื่อเวลา 17.02 น. ของวันที่ 6 ธันวาคม 2568 โดยจากรายงานแจ้งเหตุ พบว่า ในระหว่างการสับเปลี่ยนรถจักรดีเซลระหว่างขบวนรถที่ 259 และขบวนที่ 486 รถจักรดีเซลหมายเลข 4212 ได้เข้าต่อขบวนรถด้วยแรงกระแทก ทำให้มีผู้โดยสารบนขบวนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 13 ราย
หลังเกิดเหตุ การรถไฟฯ ได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่และทีมกู้ภัยเข้าช่วยเหลือทันที โดยมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้นำผู้บาดเจ็บจำนวน 13 รายส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จำนวน 9 ราย และโรงพยาบาลธนกาญจน์ จำนวน 4 ราย ขณะเดียวกันยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีกราว 20 รายที่ได้รับการปฐมพยาบาลจากเจ้าหน้าที่ ณ จุดเกิดเหตุ และไม่ประสงค์เดินทางไปโรงพยาบาล
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ยังเดินทางต่อ การรถไฟฯ ได้จัดรถบัสรองรับจำนวน 70 คน ออกเดินทางจากสถานีวังเย็นเวลา 19.05 น. เพื่อส่งต่อไปยังสถานีกาญจนบุรีและสะพานข้ามแม่น้ำแคว พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลต่อไป
ขณะนี้ การรถไฟฯ อยู่ระหว่างการเร่งสอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียด เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเดียวกันในอนาคต ทั้งนี้ การรถไฟฯ ขออภัยผู้โดยสารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และยืนยันว่าจะให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน
