กรมชลประทาน วางแผนแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล

            กรมชลประทาน วางแผนแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล หรือโครงการผันน้ำยวม ไว้ 17 แผน งบประมาณกว่า 615 ล้านบาท ที่จะดูแลและติดตามผลกระทบเป็นระยะเวลา 19 ปี และหนึ่งในนั้นคือมาตรการในการป้องกันพันธุ์ปลาต่างถิ่นหลุดรอดข้ามลุ่มน้ำ นอกจากนี้ได้ให้งบประมาณกับกรมประมง ในการศึกษาวิจัยหาวิธีการเพาะขยายพันธุ์และอนุบาลลูกปลาเพื่อปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ รวมไปถึงการรวบรวมและลำเลียงพ่อแม่ปลาที่จับได้จากบริเวณท้ายเขื่อน แล้วนำไปปล่อยบริเวณเหนือเขื่อน เพื่อช่วยในเรื่องการอพยพย้ายถิ่นของปลาในน้ำยวม

            มาตราการรับมือการอพยพของสัตว์น้ำ และการป้องกันพันธุ์ปลาต่างถิ่นหลุดรอดข้ามลุ่มน้ำ คือ ระบบการยับยั้งปลาด้วยคลื่นเสียง แบ่งระดับเสียงออกเป็น 2 ระดับคือ ระดับ Acoustic Sound (20 Hz ถึง 20 kHz) กับระดับ Infrasound (0.01-20 Hz) เพื่อขับไล่สัตว์น้ำไม่ให้ว่ายน้ำเข้ามาในเขตบริเวณที่ตั้งเครื่องสูบน้ำ รวมทั้งยังมี

• การติดตั้งตะแกรง : ป้องกันเศษไม้ ขยะ วัชพืช รวมทั้งปลาขนาดใหญ่เข้าสู่บริเวณสถานีสูบน้ำบ้านสบเงา
• การติดตั้งอุปกรณ์รวบไข่ลอย และไข่กึ่งลอยกึ่งจม (Surface Skimmer)ออกจากสถานีสูบน้ำ
• การติดตั้งตะแกรงขนาดเล็กหลายขนาดเพื่อป้องกันไข่และสัตว์น้ำวัยอ่อนไม่ให้เข้า ไปในสถานีสูบน้ำ

            นอกจากนี้ กรมชลประทาน ได้ให้งบประมาณกับกรมประมง ในการศึกษาวิจัยหาวิธีการเพาะขยายพันธุ์และอนุบาลลูกปลาเพื่อปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ รวมไปถึงการรวบรวมและลำเลียงพ่อแม่ปลาที่จับได้จากบริเวณท้ายเขื่อน แล้วนำไปปล่อยบริเวณเหนือเขื่อน เพื่อช่วยในเรื่องการอพยพย้ายถิ่นของปลาในน้ำยวม คาดว่าปลาที่ปล่อยลงในอ่างเก็บน้ำยวมเมื่อเติบโตขึ้น แล้วถึงฤดูน้ำหลากบางส่วนสามารถว่ายลงสู่ท้ายน้ำเข้าสู่แม่น้ำเมย หรือลำน้ำยวมตอนบน ลำน้ำเงา และลำน้ำสาขาที่เชื่อมต่อกัน ทำให้ผลผลิตปลาในลำน้ำต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย

ที่มา : https://bit.ly/3ZiT4Qf