สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชี บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชี บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ มีโครงการที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ได้แก่ โครงการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เฉพาะชีตอนกลาง ซึ่งพบว่าพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง มีปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง ปัญหาน้ำอุปโภค-บริโภค ปัญหาด้านคุณภาพน้ำ อยู่ในเกณฑ์สูง
จึงต้องเร่งดำเนินการหามาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความก้าวหน้าผลการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ดำเนินการขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยมีโครงการที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ได้แก่ โครงการศึกษาแผนหลักแบบบูรณาการเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เฉพาะชีตอนกลาง ซึ่งพบว่าพื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง มีปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง ปัญหาน้ำอุปโภค-บริโภค ปัญหาด้านคุณภาพน้ำ อยู่ในเกณฑ์สูง จึงต้องเร่งดำเนินการหามาตรการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน
พื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง ประกอบด้วย ลุ่มน้ำสาขา 9 ลุ่มน้ำสาขา ครอบคลุมพื้นที่ 459 ตำบล 67 อำเภอ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด และจังหวัดอุดรธานี รวมพื้นที่ประมาณกว่า 12 ล้านไร่
ทั้งนี้เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนกลาง มีปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น 1,250 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้น 998,000 ไร่ ลดปริมาณน้ำหลากที่จะไหลลงสู่แม่น้ำชีตอนกลางและตอนล่างได้ 207 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่น้ำท่วมลดลง 684,000 ไร่ สามารถช่วยเติมน้ำให้แหล่งน้ำขนาดเล็กตลอดสองฝั่งลำน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ในหน้าแล้งได้ 1,348 แห่ง
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230625125020977