กระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์โควิด 19 ในไทยมีแนวโน้มลดลง แต่ประชาชนยังคงต้องป้องกันตนเอง
กระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์โควิด 19 ในไทยมีแนวโน้มลดลง แต่ประชาชนยังคงต้องป้องกันตนเอง โดยสำหรับสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์โอมิครอนลูกผสม ความสามารถในการแพร่ระบาดและความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้น และยังสามารถตรวจหาเชื้อด้วย ATK และ RT-PCR ได้ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะติดตามเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยโควิด 19 ทั่วประเทศ ทั้งในชาวไทยและต่างชาติ เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้บุตรหลานนำสมาชิกในครอบครัวที่เป็นกลุ่ม 608 ไปฉีดวัคซีนโควิด 19 ประจำปี พร้อมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมถึงนำทั้งเด็กเล็กอายุ 6 เดือน – 5 ปี ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนโควิด 19 ไปฉีดวัคซีน เพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ทั่วโลกรอบเดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับประเทศไทย โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตลดลง การแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนก็ลดลงด้วย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 จึงขอให้ประชาชนยังคงมาตรการป้องกันตนเองเมื่อเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง หรือมีกิจกรรมเสี่ยง เพราะอาจมีโอกาสได้รับเชื้อไม่รู้ตัวและนำไปแพร่ให้คนในบ้านได้ รวมทั้งสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และเด็กเล็ก
ทั้งนี้ ขอให้บุตรหลานนำสมาชิกในครอบครัวที่เป็นกลุ่ม 608 ไปฉีดวัคซีนโควิด 19 ประจำปี พร้อมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ รวมถึงนำทั้งเด็กเล็กอายุ 6 เดือน – 5 ปี ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนโควิด 19 ไปฉีดวัคซีนเพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
สำหรับสายพันธุ์โควิด 19 ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์โอมิครอนลูกผสม ความสามารถในการแพร่ระบาดและความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้น และยังสามารถตรวจหาเชื้อด้วย ATK และ RT-PCR ได้ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะติดตามเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยโควิด 19 ทั่วประเทศ ทั้งในชาวไทยและต่างชาติ เพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อย่างต่อเนื่องต่อไป
ที่มา : https://citly.me/G0nlj
