สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยหลังหนุนให้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนำร่องเป็นตัวแทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจ DNA คนไร้สถานะแล้ว พบได้ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิการรักษาภายใต้ “โครงการพัฒนาเครือข่ายการจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎรนำร่อง”ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาตร์ ให้กับผู้มีปัญหาสิทธิสถานะไม่ต้องเดินทางมาตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ใน กทม. ระบุช่วยให้กระบวนการขอรับบัตรประชาชนและเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพได้เร็วขึ้น หนุนขยายโมเดลนี้ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ
รองเลขาธิการ สปสช. ลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เยี่ยมชมการดำเนินงานตรวจ DNA รพ.อภัยภูเบศร หลังเป็นรพ.นำร่องเก็บสิ่งส่งตรวจสารพันธุกรรม ภายใต้ “โครงการพัฒนาเครือข่ายการจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎรนำร่อง”ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาตร์ ให้กับผู้มีปัญหาสิทธิสถานะไม่ต้องเดินทางมาตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ใน กทม. ระบุช่วยให้กระบวนการขอรับบัตรประชาชนและเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพได้เร็วขึ้น หนุนขยายโมเดลนี้ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม 2566 รศ.ภญ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสปสช. พร้อมด้วย นพ.สุรทิน มาลีหวล ผอ.สปสช.เขต 6 ระยอง ลงพื้นที่ ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เพื่อเยี่ยมชมและรับฟังแนวทางการดำเนินงานการพัฒนาการเข้าถึงบริการระบบหลักประกันสุขภาพของกลุ่มคนไทยที่มีปัญหาสิทธิสถานะ ซึ่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเป็นโรงพยาบาลนำร่องในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้มีปัญหาสิทธิสถานะ กรณีต้องตรวจ DNA โดยสามารถตรวจ DNA ในพื้นที่ได้โดยไม่ต้องเดินทางมาตรวจที่ส่วนกลาง จะทำให้กระบวนการขอรับบัตรประชาชนรวดเร็วขึ้น โดยมี พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และทีมสหวิชาชีพ และนายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี นายนิรัต นิรัติศัยโสภิญ ผอ.สำนักงานยุติธรรม จ.ปราจีนบุรี นางสาวต้นน้ำ สืบตระกูล และนางสาวหนึ่ง คำพอง แม่ที่ได้บัตรประชาชนพร้อมลูก12 คน นำเสนอ
สรุปภาพรวมการดำเนินงานดังกล่าว
รศ.ภญ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสปสช.กล่าวว่า การมีบัตรประชาชน เป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพตลอดจนสวัสดิการอื่นๆ ที่รัฐจัดให้ ขณะที่นโยบายของ สปสช. ให้ความสำคัญกับการผลักดันการเข้าถึงสิทธิของประชากรกลุ่มเปราะบางซึ่งรวมถึงคนไร้สิทธิสถานะด้วย ที่ผ่านมา สปสช. ร่วมกับภาคีเครือข่าย ชมรมนักสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์ที่ทำงานด้านนี้ เช่น มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย ตลอดจนกลไกของ สปสช. คือหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียนตามมาตรา 50(5) ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในหน่วยบริการ รวมทั้งหน่วยบริการและเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ทำการค้นหาและช่วยเหลือให้ผู้ที่มีปัญหาสิทธิสถานะได้เข้าถึงการรักษาพยาบาล
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในขั้นตอนที่จำเป็นคือการขอรับบัตรประชาชนก่อน จึงจะมีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพได้ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องมีการสืบพยาน ค้นหาเอกสารหลักฐาน เพื่อยืนยันตัวตนผู้ขอรับบัตรประชาชน และในหลายกรณีจำเป็นต้องมีการตรวจ DNA ด้วย ซึ่งการตรวจ DNA มีค่าใช้จ่ายสูง เป็นอุปสรรคกับผู้มีปัญหาสิทธิสถานะซึ่งส่วนมากเป็นกลุ่มคนเปราะบาง
ทั้งนี้ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีนโยบายช่วยเหลือคนกลุ่มนี้และมีโครงการตรวจ DNA โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ที่ผ่านมายังมีอุปสรรคที่ผู้เข้ารับการตรวจ DNA ต้องเดินทางมาตรวจที่ กทม. หลายรายไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง กลายเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในการเข้าถึงบริการ ด้วยเหตุนี้ การที่มีโรงพยาบาลในพื้นที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจ DNA จึงช่วยลดอุปสรรคเรื่องการเดินทาง อีกทั้งทำให้กระบวนการตรวจ DNA รวดเร็วขึ้น ได้บัตรประชาชนและได้สิทธิการรักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพเร็วขึ้นตามไปด้วย
รองเลขาธิการฯกล่าวว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นตัวอย่างที่ดีในการนำร่องในเรื่องนี้ และหวังว่าจะขยายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป ซึ่งจะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายเพราะผู้มีปัญหาสิทธิสถานะสามารถเข้าถึงการตรวจ DNA ได้ในพื้นที่โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ กทม. หรือรอเป็นเดือน หรือเป็นปี ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ออกไปตรวจเชิงรุก ขณะที่โรงพยาบาลก็จะได้ประโยชน์ด้วยอย่างมาก เนื่องจากส่วนมากกลุ่มผู้มีปัญหาสิทธิสถานะมักจะมีฐานะยากจนและเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาล เมื่อเจ็บป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลหมายความว่าอาการของโรครุนแรงมากแล้ว ค่าใช้จ่ายในการรักษาก็สูงตามไปด้วย โรงพยาบาลต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย
“การที่โรงพยาบาลเป็นตัวแทนช่วยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจ DNA ทำให้คนกลุ่มนี้ได้บัตรประชาชนและมีสิทธิหลักประกันสุขภาพ จะทำให้โรงพยาบาลไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้อีก และ สปสช. ก็ได้ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิและบริการอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ต้องรับการสงเคราะห์อีกต่อไป” รองเลขาธิการสปสช.กล่าว
ด้าน พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า การร่วมมือเป็นตัวแทนตรวจ DNA ให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากที่ผ่านมาโรงพยาบาลมีผู้มีปัญหาสิทธิสถานะจำนวนหนึ่งที่มารักษาแล้วโรงพยาบาลต้องให้การอนุเคราะห์ บางรายเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ต้องรักษาต่อเนื่องและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เมื่อผู้ป่วยเมื่อทราบค่าใช้จ่ายในการรักษาแล้วก็ไม่กล้ามาโรงพยาบาล ส่งผลให้ขาดความต่อเนื่องในการรักษา อาการยิ่งทรุดหนักลง
“ โรงพยาบาลมองว่าการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม ไม่เฉพาะแค่การรักษาอย่างเดียว แต่รวมถึงการช่วยเหลือให้กลุ่มนี้ได้เข้าถึงสิทธิอีกด้วย โดยได้ประสานงานกับหลายหน่วยงาน ทั้ง สปสช. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อผลักดันให้ได้รับบัตรประชาชนและเข้าถึงสิทธิในการรักษาพยาบาล ซึ่งปัจจุบันรพ.นำร่องพิสูจน์อัตลักษณ์ สามารถผลักดันให้ผู้มีปัญหาสิทธิสถานะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ตัวตนและได้รับบัตรประชาชนไปแล้ว 61 ราย
อย่างไรก็ตาม คณะได้ลงเยี่ยม นส.หนึ่ง คำพอง อายุ 42 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี แต่งกับนายถาวร วิไลพร อายุ 53 ปี มีลูก 12 คน หนึ่งและสามี เป็นผู้ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้ลูกทั้ง 8 คน ได้แก่ นายเบนซ์, นส.ฟ้า นายอัศวิน, นส.แวน, นายมิกกี้เม้าส์, ดญ.พลอยขัวญ, ดช.เกรียงไกรและดช.เดชา ไม่ได้แจ้งเกิด ในปีพ.ศ.2562 นส.หนึ่ง คำพอง ได้รับการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน ลูกอีก 4 คน ได้แจ้งเกิดและมีบัตรประชาชน ปัจจุบันหนึ่งกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 13 ประมาณ 5 เดือน หลังได้บัตรประชาชน และได้เข้าถึงสิทธิการรักษาหลักประกันสุขภาพ
ที่มา : https://rb.gy/ak8xi
