การจ่ายเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนตุลาคม 2566

       โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนตุลาคม 2566 จะได้รับวงเงิน ดังนี้

วันที่ 1 ตุลาคม 2566

เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป

วงเงินซื้อสินค้า

    • 300 บาทต่อคนต่อเดือน
    • สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 สิงหาคม – 26 กันยายน 2566 และเริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์ และกลุ่มตกหล่น รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม จะได้รับการทบสิทธิวงเงินค่าซื้อสินค้า 6 เดือน (ของเดือนเมษายน – กันยายน 2566) รวมจำนวน 1,800 บาท

วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม

    • 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ตุลาคม – ธันวาคม 2566)

วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ

    • 750 บาทต่อคนต่อเดือน
    • ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL/EBM) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

วันที่ 6 ตุลาคม 2566

เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565

    • ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน (ตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน 2566)
    • สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่เกิดก่อนวันที่ 1 กันยายน 2506 และยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายในวันที่ 26 กันยายน 2566 ผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 3 ตุลาคม 2566

การจ่ายเงิน : โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ที่ผู้มีสิทธิได้ยื่นหนังสือให้ความยินยอมไว้แล้ว ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด

วันที่ 20 ตุลาคม 2566

เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ

    • 200 บาทต่อเดือน
    • สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตนวันที่ 27 สิงหาคม – 26 กันยายน 2566 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง ยกเว้น ผู้ผ่านสิทธิรอบอุทธรณ์และกลุ่มตกหล่น รวมทั้งผู้ผ่านสิทธิที่ดินเพิ่มเติม จะได้รับการทบสิทธิเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ (ของเดือนเมษายน – กันยายน 2566) ตามเดือนที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

การจ่ายเงิน : โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท