กรมการแพทย์ เตือน “กระดาษเมา” ออกฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง อันตรายถึงชีวิต

กรมการแพทย์ เตือน “กระดาษเมา” ออกฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง อันตรายถึงชีวิต

       กรมการแพทย์ เตือนภัย “กระดาษเมา สติกเกอร์เมา กระดาษมหัศจรรย์ หรือ แสตมป์มรณะ” อันตราย ออกฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้

       นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า “กระดาษเมา” หรือที่รู้จักในชื่อ สติกเกอร์เมา กระดาษมหัศจรรย์ หรือแสตมป์มรณะ คือการนำสาร แอลเอสดี (LSD) ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์หลอนประสาท มาหยดลงบนกระดาษดูดซับ (blotter paper) ที่มักพิมพ์ลวดลายและสีสันต่าง ๆ จากนั้นนำมาแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลักษณะคล้ายแสตมป์ แล้วใช้อมไว้ใต้ลิ้น เมื่อเข้าสู่ร่างกาย สารแอลเอสดีจะออกฤทธิ์ภายใน 30 – 90 นาที นาน 8 – 12 ชั่วโมง ส่งผลให้ผู้เสพมีอาการรูม่านตาขยาย อุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก นอนไม่หลับ ปากแห้ง ตัวสั่น และเบื่ออาหาร ในระยะแรกผู้เสพอาจรู้สึกมึนศีรษะ เห็นแสงวูบวาบ หรือเกิดอาการเคลิ้มสุข แต่ต่อมาจะเข้าสู่ ภาวะประสาทหลอนรุนแรง เช่น เห็นภาพหลอน หูแว่ว การรับรู้ภาพและสีผิดเพี้ยน เห็นภาพความทรงจำในอดีตซ้ำขึ้นมา และอาจเกิดความหวาดกลัวรุนแรงได้ บางรายอาจควบคุมตนเองไม่ได้ จนถึงขั้นทำร้ายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่น หรือเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย

       นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสพสารแอลเอสดี (LSD) ส่งผลโดยตรงต่อการรับรู้ ความคิด และการตัดสินใจของผู้เสพ อาจก่อให้เกิดพฤติกรรมรุนแรงและเป็นอันตรายต่อทั้งตนเองและผู้อื่น เช่น การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือการทำร้ายตนเอง นอกจากนี้หากเสพในปริมาณมากเกินไปเป็นเวลานาน ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางจิตเรื้อรัง เช่น โรคจิตเภท หรือโรคซึมเศร้า ซึ่งมักมาพร้อมอาการหวาดระแวง หูแว่ว เห็นภาพหลอน และแม้จะหยุดใช้ยาแล้ว แต่อาการทางจิตยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ อีกทั้งยังรักษาได้ยากและต้องใช้เวลานานกว่าจะทุเลา ขอเน้นย้ำเตือนกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยว อย่าหลงเชื่อคำชักชวนให้ทดลองใช้ “กระดาษเมา” หรือสารเสพติดทุกชนิด เพราะไม่เพียงแต่เกิดผลเสียต่อร่างกายและจิตใจเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมและการเสียชีวิตได้

       ทั้งนี้หากประสบปัญหาเรื่องยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165

       สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th หรือเข้ารับการบำบัดรักษาสุราและยาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานีและโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่

    1. โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่
    2. โรงพยาบาลธัญญารักษ์แม่ฮ่องสอน
    3. โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น
    4. โรงพยาบาลธัญญารักษ์อุดรธานี
    5. โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา
    6. โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี

หรือโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง