ธนาคารแห่งประเทศไทย แนะนำ หนี้ “ปรับ” ได้ เจ้าหนี้ต้องเสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้ ก่อน 1 หลัง 1
โดยเจ้าหนี้ต้องเสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้ ก่อนเป็นหนี้เสีย “อย่างน้อย 1 ครั้ง” และหลังเป็นหนี้เสียแล้ว “อย่างน้อย 1 ครั้ง”
1. ขอปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่ยังไม่เป็นหนี้เสีย
– ครอบคลุมทั้งลูกหนี้รายย่อย และ SMEs เช่น สินเชื่อบ้าน บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ (Nano finance) สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
– ขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ทั้งก่อนเป็นหนี้เสีย (non-NPL) และหลังเป็นหนี้เสีย (NPL)
– หากเป็น NPL มีเวลาให้พิจารณาแผนปรับโครงสร้างหนี้ อย่างน้อย 60 วัน ก่อนถูกโอนขายหนี้
– วิธีปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขยายระยะเวลาผ่อน ลดอัตราผ่อนจ่ายช่วงแรก จะพิจารณาโดยเจ้าหนี้ ตามความสามารถชำระหนี้และเงินคงเหลือดำรงชีวิต
2. เข้าโครงการคลินิกแก้หนี้
– แก้หนี้เสีย บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ค้างชำระเกิน 120 วัน
– รวมแก้หนี้ในครั้งเดียวได้ หากมีเจ้าหนี้หลายแห่ง ยอดหนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท
– ลดดอกเบี้ย เหลือ 3%-5% ต่อปี และเปลี่ยนเป็นผ่อนจ่ายรายงวด สูงสุด 10 ปี
– ลูกหนี้ต้องมีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
สนใจปรับโครงสร้างหนี้ ติดต่อ call center หรือสาขาธนาคารที่ใช้บริการ อ่านรายละเอียดมาตรการแก้หนี้ได้ที่นี่ https://www.bot.or.th/…/debtsolution-measure.html…
ที่มา : https://shorturl.asia/9ZiYx