กระทรวงยุติธรรม เปิดเผย 13 ป้ายโฆษณา ที่ได้รับยกเว้นภาษี
- พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 6 กำหนดว่า
- “ป้ายที่ต้องเสียภาษี คือ ป้ายที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ เครื่องหมายการค้าที่ใช้ในการโฆษณาเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะแสดงเป็นอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก บนวัสดุต่างๆ”
พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 6 กำหนดว่า “ป้ายที่ต้องเสียภาษี คือ ป้ายที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ เครื่องหมายการค้าที่ใช้ในการโฆษณาเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะแสดงเป็นอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก บนวัสดุต่างๆ”
กฎหมายมีข้อยกเว้น กำหนดให้เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้าย 13 ป้าย ดังนี้
- ป้ายที่แสดงไว้ ณ โรงละคร สถานที่แสดงดนตรีหรือสถานที่ สำหรับฉายภาพยนตร์
- ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้า หรือสิ่งบรรจุสินค้า
- ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
- ป้ายที่แสดงไว้ที่คนหรือสัตว์
- ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้าประกอบกิจการอื่น หรือภายในอาคารซึ่งเป็นรโหฐาน เพื่อหารายได้
แต่ละป้ายต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 3 ตารางเมตร ที่กำหนดในกฎกระทรวง - ป้ายของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค หรือราชการส่วนท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
- ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล และหน่วยงานที่นำรายได้ส่งรัฐ
- ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการสหกรณ์ และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- ป้ายของโรงเรียนเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่แสดงไว้ ณ อาคารหรือบริเวณของโรงเรียน
หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้น - ป้ายของผู้ประกอบการเกษตรซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตรของตน
- ป้ายของวัด หรือผู้ดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่ศาสนาหรือการกุศลสาธารณะ
- ป้ายของสมาคม หรือมูลนิธิ
- ป้ายตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2535) ให้เจ้าของป้ายไม่ต้องเสียภาษีป้าย ดังนี้
-
- ป้ายที่ติดตั้ง หรือแสดงไว้ที่รถยนต์ส่วนบุคคลรถจักรยานยนต์ รถบดถนน หรือรถแทรกเตอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
- ป้ายที่ติดตั้ง หรือแสดงไว้ที่ล้อเลื่อน ตามกฎหมายว่าด้วยล้อเลื่อน
ข้อมูลจาก : พระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. 2510 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 6 มาตรา 8
ที่มา : https://citly.me/XmOzC