ศบค.ประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด พร้อมขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด โดยขอความร่วมมือไม่เดินทางข้ามจังหวัด ควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเร่งการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก เริ่มในวันที่ 4 มกราคม 2564 เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 06.00 น. พร้อมกำหนดให้ดำเนินการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด แบ่งเป็น 2 ขั้น
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศยังคงพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องจึงต้องมีมาตรการการควบคุมและป้องกันโรคเพิ่มขึ้น ล่าสุดได้กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด เช่น กรุงเทพฯ ตาก นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐมราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการจันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ชุมพร และระนอง พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัดและพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด 38 จังหวัด โดยทุกภาคส่วนต้องดำเนินมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ตามที่ ศบค. กำหนดอย่างบูรณาการซึ่งเป็นมาตรการที่กำหนดให้ดำเนินการในพื้นที่ควบคุมสูงสุด แบ่งเป็น 2 ขั้น
- ขั้นที่ 1 จำกัดเวลาเปิด-ปิด สถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ค้นหาและจับกุมกลุ่มบุคคลที่มั่วสุ่มทำผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มจำนวนมาก สถานศึกษาหยุดการเรียนการสอนและใช้รูปแบบออนไลน์ ให้มีการทำงานที่บ้าน (Work form home) ทั่วทั้งพื้นที่ที่ ศบค. กำหนด ขอความร่วมมือไม่เดินทางข้ามจังหวัด ควบคุมการเดินทางของบุคคลที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเร่งการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก โดยการดำเนินงานจะเริ่มในวันที่ 4 มกราคม 2564 เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 06.00 น.
- ขั้นที่ 2 ต้องรอเห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายมาตรการฯ ในกรอบเงื่อนไขที่ ศบค.กำหนดก่อน
โฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า กรณีมีประชาชนสอบถามเข้ามาจำนวนมากว่าเหตุใดยังไม่มีการประกาศล็อกดาวน์นั้น ชี้แจงว่าการล็อกดาวน์ครั้งที่ผ่านมามีผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบคือประชาชนและผู้ประกอบการ รวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ดังนั้นการขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคของรัฐบาลเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้
ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210102193712366