กรมอนามัย แนะนำวิธีการป้องกันไข้หวัดนกสำหรับผู้สัมผัสหรือผู้ปรุงประกอบอาหาร
กรมอนามัย แนะนำวิธีการป้องกันไข้หวัดนกสำหรับผู้สัมผัสหรือผู้ปรุงประกอบอาหาร
ข้อแนะนำสำหรับผู้สัมผัสหรือผู้ปรุงประกอบอาหาร มีดังนี้
- ไม่ใช้มือที่หยิบจับไก่ดิบหรือเปื้อน มาจับจมูก ตาและปาก ควรล้างมือบ่อยๆ
- หลังจับเนื้อสัตว์ หรือเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อนถ้ามีบาดแผลที่มือ
- ต้องปกปิดแผลให้มิดชิดและเลี่ยงการปฏิบัติงานที่มีโอกาสสัมผัสอาหาร
- ควรแยกเขียงสำหรับหั่นเนื้อไก่สดเป็ดสด จากเขียงสำหรับหั่นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว
- ไม่ใช้มือที่หยิบจับไก่ดิบหรือเปื้อน มาจับจมูก ตาและปาก ควรล้างมือบ่อยๆ
ข้อแนะนำสำหรับประชาชน มีดังนี้
- ควรเลือกเนื้อไก่ และเป็ดสดจากร้านที่มีการรับรองมาตรฐาน หรือร้านค้าประจำ
- เลือกซื้อไก่ และเป็ดสดที่ไม่มีลักษณะว่าอาจจะตายด้วยโรคติดเชื้อ
- เช่น เนื้อมีสีคล้ำ มีจุดเลือดออก
- เลือกไข่ที่ฟองดูสดใหม่ ไม่มีมูลไก่หรือเป็ดติดเปื้อนที่เปลือกไข่ และล้างทำความสะอาดก่อนนำมาปรุง
- ไก่ เป็ด ควรผ่านการปรุงสุกอย่างทั่วถึงด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาฯขึ้นไป
- อย่างน้อย 5 นาทีเพื่อลดความเสี่ยงการปนเปื้อนเชื้อโรค รวมทั้งยาฆ่าแมลงตกค้าง
ไข้หวัดนก (Bird Flu หรือ Avian Flu) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอที่เกิดขึ้นในสัตว์ปีก เชื้อไวรัสไข้หวัดนกส่วนใหญ่ไม่สามารถแพร่เชื้อสู่คนได้ ยกเว้นสายพันธุ์ H5N1 ที่เกิดการระบาดในประเทศไทยในปี พ.ศ.2547–2549 แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่พบผู้ป่วยไทยเพิ่มเติม และสายพันธุ์ H7N9 ที่พบการระบาดในประเทศจีน ซึ่ง 2 สายพันธุ์นี้สามารถก่อให้เกิดโรครุนแรงในคนได้
อาการของไข้หวัดนก ไข้หวัดนกเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มีระยะเวลาในการฟักตัวของเชื้อก่อนแสดงอาการอยู่ที่ประมาณ 2–5 วัน หากเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ H5N1 อาจใช้เวลาฟักตัวได้ถึง 17 วัน ในขณะที่สายพันธุ์ H7N9 จะใช้เวลา 1-10 วัน แต่โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 5 วัน โดยในช่วงที่เชื้อฟักตัวจะยังไม่มีอาการใด ๆ แต่หากเข้าสู่ระยะแสดงอาการแล้ว อาการทั่วไปที่พบได้คือ
- มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะ
- มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ หรือมีน้ำมูกไหล
- ผู้ป่วยบางรายมีอาการเริ่มแรกอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เช่น ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง เจ็บหน้าอก มีเลือดออกตามไรฟัน มีเลือดกำเดาไหล หรือมีอาการเยื่อบุตาอักเสบ
การป้องกันไข้หวัดนก
- ข้อแนะนำสำหรับผู้สัมผัสหรือผู้ปรุงประกอบอาหาร
- ไม่ใช้มือที่หยิบจับไก่ดิบหรือเปื้อน มาจับจมูก ตาและปาก ควรล้างมือบ่อยๆ
- หลังจับเนื้อสัตว์ หรือเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อนถ้ามีบาดแผลที่มือ ต้องปกปิดแผลให้มิดชิดและเลี่ยงการปฏิบัติงานที่มีโอกาสสัมผัสอาหาร
- ควรแยกเขียงสำหรับหั่นเนื้อไก่สดเป็ดสด จากเขียงสำหรับหั่นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว
ข้อแนะนำสำหรับประชาชน
- ควรเลือกเนื้อไก่ และเป็ดสดจากร้านที่มีการรับรองมาตรฐาน หรือร้านค้าประจำ
- เลือกซื้อไก่ และเป็ดสดที่ไม่มีลักษณะว่าอาจจะตายด้วยโรคติดเชื้อ เช่น เนื้อมีสีคล้ำ มีจุดเลือดออก
- เลือกไข่ที่ฟองดูสดใหม่ ไม่มีมูลไก่หรือเป็ดติดเปื้อนที่เปลือกไข่ และล้างทำความสะอาดก่อนนำมาปรุง
- ไก่ เป็ด ควรผ่านการปรุงสุกอย่างทั่วถึงด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาฯขึ้นไป อย่างน้อย 5 นาทีเพื่อลดความเสี่ยงการปนเปื้อนเชื้อโรค รวมทั้งยาฆ่าแมลงตกค้าง
ที่มา : https://shorturl.asia/ZhX9R
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.