กระทรวงยุติธรรม แนะนำ เมื่อตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ ต้องทำอย่างไร

กระทรวงยุติธรรม แนะนำ เมื่อตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ ต้องทำอย่างไร

 

        ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มาตรา 7 กำหนดว่า กรณีที่สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ถือบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ว่าได้มีการทำธุรกรรมเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

  • ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว มีหน้าที่ระงับการทำธุรกรรมนั้นไว้ชั่วคราว พร้อมทั้งนำข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ ผู้รับโอนทุกทอดทราบและระงับการทำธุรกรรมดังกล่าวไว้ทันที
  • แจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนภายใน 72 ชั่วโมง
  • เมื่อมีการร้องทุกข์แล้ว ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้สถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับการทำธุรกรรมไว้ทราบ และให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากและบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งความร้องทุกข์

เมื่อตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ ต้องทำอย่างไร

1. แจ้งระงับบัญชีธนาคารทันที รีบโทรแจ้งธนาคารระงับบัญชี โดยธนาคารจะระงับได้ไม่เกิน 7 วัน และจะส่งต่อข้อมูลให้ธนาคารอื่นทราบ เพื่อระงับบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยแจ้งทางโทรศัพท์หรือแอปพลิเคชันของธนาคาร

2. เก็บหลักฐานการโอนเงิน หากโอนเงินแล้วผู้เสียหายควรจัดเก็บหลักฐาน เช่น เลขบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี สาขาที่โอน หรือการโอนเงินรูปแบบอื่นๆ ที่มีหลักฐาน

3. เก็บหลักฐานการติดต่อ ผู้เสียหายควรเก็บข้อมูล อีเมลและข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ใดๆ หรือการติดต่อสื่อสารทุกช่องทางกับผู้กระทำผิด

4. แจ้งความ ภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับบัญชีดังกล่าวภายใน 7 วัน โดยแจ้งความได้ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีหรือสถานีตำรวจทั่วประเทศ

ข้อมูลจาก : พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มาตรา 7

 


ที่มา : https://bit.ly/4duLJEY