สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำ 7 สิ่งที่ต้องมี เพื่อเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำ 7 สิ่งที่ต้องมี เพื่อเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ

          สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำ 7 สิ่งที่ต้องมี เพื่อเตรียมรับมือและเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ ดังนี้

    • น้ำดื่มสำรอง
    • อาหารกระป๋องและอาหารแห้ง
    • ไฟฉาย
    • ชุดปฐมพยาบาลและยาสามัญประจำบ้าน
    • วิทยุระบบ FM ที่ใช้แบตเตอรี่
    • แบตเตอรี่สำรอง (Power bank)
    • ถุงขยะ หรือถุงพลาสติก

 

          พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย ซึ่งเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

          ผบ.ตร.ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายสนับสนุนในการกู้ภัย ช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

          อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมจะยังไม่คลี่คลายโดยเร็ว และมีแนวโน้มที่กระแสน้ำจะเคลื่อนตัวไปยังพื้นที่อื่น ๆ

          สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอแนะนำพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับ 7 สิ่งที่ต้องมี เพื่อเตรียมรับมือและเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ ดังนี้

    1. “น้ำดื่มสำรอง” ควรมีน้ำดื่มสำรองเพียงพอสำหรับใช้ดื่ม อย่างน้อย 3 – 5 วัน
    2. “อาหารกระป๋องและอาหารแห้ง” เน้นอาหารที่ไม่ต้องแช่เย็นหรือปรุงสุกมาก เช่น ปลากระป๋อง ขนมปัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
    3. “ไฟฉาย” เนื่องจากไฟฟ้าอาจดับในช่วงพายุหรือน้ำท่วม โดยสามารถใช้ในการส่องสว่างในเวลากลางคืน และส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
    4. “ชุดปฐมพยาบาลและยาสามัญประจำบ้าน” รวมถึงยาที่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
    5. “วิทยุระบบ FM ที่ใช้แบตเตอรี่” เพื่อรับฟังข่าวสารจากหน่วยงานรัฐบาลในกรณีที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต หรือระบบไฟฟ้า
    6. “แบตเตอรี่สำรอง (Power bank)” เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็น
    7. “ถุงขยะ หรือถุงพลาสติก” สำหรับจัดการกับขยะและของเสียต่าง ๆ หรือใช้ป้องกันสิ่งของสำคัญไม่ให้เปียกน้ำ

          สุดท้ายนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบหรือต้องการความช่วยเหลือ จากเหตุอุทกภัย และภัยธรรมชาติต่าง ๆ สามารถโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วน 191, สายด่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) 1784, สายด่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 1669 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1559 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 


 

ที่มา : https://citly.me/Uij6l