โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

ตรวจสอบสิทธิและตรวจสอบผลการรับโอนเงิน

ข้อมูลทั่วไปของโครงการ

ที่มาการดำเนินโครงการ

     นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยมีนโยบายสำคัญที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก

เหตุผลความจำเป็นของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

     โดยที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.5 ต่อปีเป็นระดับที่ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวเฉลี่ยในอดีต ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวตามศักยภาพ (Potential Growth) และต่ำกว่าอัตราการขยายตัวของประเทศในภูมิภาค หนี้ภาคครัวเรือน และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอยู่ในระดับสูง ปัจจัยดังกล่าวทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางที่มีกำลังซื้อที่อ่อนแอ ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก ๆ

     จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิจารณาจัดสรรเงินเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการก่อนเป็นกลุ่มแรก เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อยและคนพิการซึ่งมีกำลังซื้ออ่อนแอให้ได้ ทั่วถึง

     นอกจากนี้ เมื่อมีพิจารณาจากลักษณะการใช้จ่ายของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นจะมีความโน้มเอียงที่จะใช้จ่ายบริโภคสูงกว่าประชาชนกลุ่มอื่น ดังนั้นการจัดสรรเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจะเอื้อให้เกิดการใช้จ่าย และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างรวดเร็ว

วัตถุประสงค์โครงการ

  • เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและ ผู้เปราะบางที่ขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  • ทั้งยังช่วยเพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ในช่วงปลายปี 2567 ได้อย่างรวดเร็ว

วิธีดำเนินโครงการ

  • จัดสรรเงินให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ คนละ 10,000 บาท เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอย โดยไม่กำหนดเงื่อนไขในการใช้จ่าย

จำนวนเงินงบประมาณรวมที่ใช้ในโครงการ

  • วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 145,552.40 ล้านบาท

กลุ่มเป้าหมาย

1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว

    • ตรวจสอบตามฐานข้อมูลของโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ศ. 2565 โดยใช้ข้อมูลอ้างอิง ณ วันที่ 31 ส.ค. 67  จำนวนประมาณ 12.40 ล้านคน
    • ทั้งนี้ ให้รวมถึง
      – 
      คนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ
      – 
      คนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการแต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการตามฐานข้อมูล อทป. กทม. และพัทยา
    • ซึ่งคนพิการดังกล่าวมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและทำ e-KYC สำเร็จแล้ว

2. คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ

    • ตรวจสอบตามฐานข้อมูลของ พก. โดยใช้ข้อมูลอ้างอิง ณ วันที่ 31 ส.ค. 67 จำนวนประมาณ 2.15 ล้านคน
    • ให้รวมถึง คนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการแต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่แล้ว (คนพิการที่ขึ้นทะเบียนไว้ตาม ฐานข้อมูลของ อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา แต่ยังไม่ปรากฏข้อมูลในฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต คนพิการ (พก.)) ทั้งที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่ไม่ได้ทำ e-KYC ภายในวันที่ 31 ส.ค. 67

กลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ

  • ผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ตรวจสอบตามฐานข้อมูลของ พม. โดยใช้ข้อมูลอ้างอิง ณ วันที่ 31 ส.ค. 67) จะไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากได้รับการดูแลค่าใช้จ่ายจากรัฐอย่างครอบคลุมแล้ว
  • ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 31 ส.ค. 67 หรือไม่ได้ยืนยันตัวตน
  • คนพิการ ไม่มีข้อมูลการขอรับเบี้ยพิการ ภายในวันที่ 31 ส.ค. 67

วิธีจัดสรรหรือโอนเงิน 10,000 บาทต่อคน

1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

รูปแบบที่ 1 : บัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน

    • โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน
    • ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์

รูปแบบที่ 2 : บัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์ใน “หนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือบุคคลอื่น”  

    • กรณีผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้
        • จะโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์ใน “หนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือบุคคลอื่น” ซึ่งได้แจ้งไว้ ณ สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง ตามแนวทางการจ่ายเงินของกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจ ฐานรากและสังคม
    • กรณียังไม่ได้แจ้งความประสงค์ ให้นำแบบฟอร์มหนังสือให้ความยินยอมฯ และเอกสารหลักฐาน ไปยืนได้ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด

2. คนพิการ

    • 2.1 โอนเงินตามช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ ซึ่งได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา
        • กรณีเคยได้รับเงิน เบี้ยความพิการจาก อปท. เป็นเงินสด จะได้รับเงิน 10,000 บาท เป็นเงินสดผ่าน อปท. ดังเดิม)
    • 2.2 กรณีคนพิการที่ปรากฏข้อมูลในฐานข้อมูลของ พก. แต่ไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ ตามข้อ (2.1)
        • จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน
        • ยกเว้น กรณีคนพิการติดเตียงหรือไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้
          –  ให้ ลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการ ต่อ อปท. ที่ตนมีภูมิลำเนา ณ ที่ทำการ อปท. หรือสถานที่ที่ อปท. กำหนด
          –  ภายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ก่อนการโอนเงินเบี้ยความพิการ
          –  เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะใช้บัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเบี้ยความพิการดังกล่าว สำหรับการโอนเงินโครงการให้ ต่อไป

การจ่ายเงิน

กำหนดการจ่ายเงินครั้งแรก

กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป  โดยขณะนี้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมที่จะจ่ายเงิน ดังนี้ 

 วัน เดือน ปีกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงิน 
 25 กันยายน 2567คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0
 26 กันยายน 2567ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3 
 27 กันยายน 2567ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7
 30 กันยายน 2567ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9


หมายเหตุ:

    • คนพิการ หมายถึง ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ
    • ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายถึง ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567

กรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก

     กรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่ กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง โดยเมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ

กำหนดการจ่ายเงินซ้ำ : ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายใน 31 ส.ค. 67

    • ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนเรียบร้อยแล้ว

    • กรณีไม่สามารถดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์ได้ (ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป)
      ได้
      ทำหนังสือให้ความยินยอมฯ แล้ว

เลขประจำตัวประชาชน
หลักสุดท้าย
จ่ายเงินรอบแรกวันที่จ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1
(ต.ค. 67)
ครั้งที่ 2
(พ.ย. 67)
ครั้งที่ 3
(ธ.ค. 67)
  เลข 0พ. 25 ก.ย. 67จ. 21 ต.ค. 67พฤ. 21 พ.ย. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67
  เลข 1 2 3พฤ. 26 ก.ย. 67
  เลข 4 5 6 7ศ. 27 ก.ย. 67อ. 22 ต.ค. 67ศ. 22 พ.ย. 67ศ. 20 ธ.ค. 67
  เลข 8 9จ. 30 ก.ย. 67

หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง

2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายใน 31 ส.ค. 67

    • แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน
      จะต้องดำเนินการผูกพร้อมเพย์ก่อนวันจ่ายเงิน 3 วัน

2.1 กรณีจ่ายรอบแรก

เลขประจำตัวประชาชน
หลักสุดท้าย
ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน
(วันที่)
เพื่อรับเงินรอบแรกใน
(วันที่)
  เลข 0อา. 22 ก.ย. 67พ. 25 ก.ย. 67
  เลข 1 2 3จ. 23 ก.ย. 67พฤ. 26 ก.ย. 67
  เลข 4 5 6 7อ.24 ก.ย. 67ศ. 27 ก.ย. 67
  เลข 8 9ศ. 27 ก.ย. 67จ. 30 ก.ย. 67


2.2 กรณีจ่ายเงินซ้ำ

เลขประจำตัวประชาชน
หลักสุดท้าย
ครั้งที่ 1ครั้งที่ 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันจ่ายเงินดำเนินการภายในวันจ่ายเงินดำเนินการภายในวันจ่ายเงิน
  เลข 0ศ. 18 ต.ค. 67จ. 21 ต.ค. 67จ. 18 พ.ย. 67พฤ. 21 พ.ย. 67จ. 16 ธ.ค. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67
  เลข 1 2 3
  เลข 4 5 6 7ส. 19 ต.ค. 67อ. 22 ต.ค. 67อ. 19 พ.ย. 67ศ. 22 พ.ย. 67อ. 17 ธ.ค. 67ศ. 20 ธ.ค. 67
  เลข 8 9

 หมายเหตุ ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง

3.ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายใน 31 ส.ค. 67

    • แต่ยังไม่ได้ทำหนังสือให้ความยินยอมฯ
      ในกรณีไม่สามารถดำเนินการ
      ผูกบัญชีพร้อมเพย์ได้ (ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป)
      จะต้องดำเนินการยืนหนังสือให้ความยินยอมฯ ให้เรียบร้อยภายในวันที่กำหนด
      เพื่อรับเงินในรอบนั้นๆ ดังนี้

3.1 กรณีจ่ายรอบแรก

เลขประจำตัวประชาชน
หลักสุดท้าย
ปชช. ยื่นหนังสือให้ความยินยอม ฯ ณ สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลางจนท. สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง อนุมัติข้อมูลในระบบยินยอมฯวันจ่ายเงิน
รอบแรก
  เลข 0ส. 31 ส.ค. 67ส. 31 ส.ค. 67พ. 25 ก.ย. 67
  เลข 1 2 3ส. 31 ส.ค. 67ส. 31 ส.ค. 67พฤ. 26 ก.ย. 67
  เลข 4 5 6 7ส. 31 ส.ค. 67ส. 31 ส.ค. 67ศ. 27 ก.ย. 67
  เลข 8 9ส. 31 ส.ค. 67ส. 31 ส.ค. 67จ. 30 ก.ย. 67


3.2 กรณีจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 1

เลขประจำตัวประชาชน
หลักสุดท้าย
ปชช. ยื่นหนังสือให้ความยินยอม ฯ ณ สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลางจนท. สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง อนุมัติข้อมูลในระบบยินยอมฯวันจ่ายซ้ำ
ครั้งที่ 1
  เลข 0จ. 30 ก.ย. 67พฤ. 10 ต.ค. 67จ. 21 ต.ค. 67
  เลข 1 2 3
  เลข 4 5 6 7จ. 30 ก.ย. 67พฤ. 10 ต.ค. 67อ. 22 ต.ค. 67
  เลข 8 9


3.3 กรณีจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 2

เลขประจำตัวประชาชน
หลักสุดท้าย
ปชช. ยื่นหนังสือให้ความยินยอม ฯ ณ สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลางจนท. สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง อนุมัติข้อมูลในระบบยินยอมฯวันจ่ายซ้ำ
ครั้งที่ 2
  เลข 0พฤ. 31 ต.ต. 67ศ. 15 พ.ย. 67พฤ. 21 พ.ย. 67
  เลข 1 2 3
  เลข 4 5 6 7พฤ. 31 ต.ต. 67ศ. 15 พ.ย. 67ศ. 22 พ.ย. 67
  เลข 8 9


3.4 กรณีจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3

เลขประจำตัวประชาชน
หลักสุดท้าย
ปชช. ยื่นหนังสือให้ความยินยอม ฯ ณ สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลางจนท. สนง.คลังจังหวัด/กรมบัญชีกลาง อนุมัติข้อมูลในระบบยินยอมฯวันจ่ายซ้ำ
ครั้งที่ 3
  เลข 0ศ. 29 พ.ย. 67ศ. 6 ธ.ค. 37พฤ. 19 ธ.ค. 67
  เลข 1 2 3
  เลข 4 5 6 7ศ. 29 พ.ย. 67ศ. 6 ธ.ค. 37ศ. 20 ธ.ค. 67
  เลข 8 9


หมายเหตุ
ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง

กำหนดการจ่ายเงินซ้ำ : คนพิการ

1. คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการในฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ณ วันที่ 31 ส.ค. 67

    • บัตรคนพิการยังไม่หมดอายุ

    • มีข้อมูลการจ่ายเบี้ยคนพิการถูกต้อง

วันที่จ่ายเงินครั้งแรกวันที่จ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1
(ต.ค. 67)
ครั้งที่ 2
(พ.ย. 67)
ครั้งที่ 3
(ธ.ค. 67)
พ. 25 ก.ย. 67จ. 21 ต.ค. 67พฤ. 21 พ.ย. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67


หมายเหตุ
ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง

2. มีบัตรประจำตัวคนพิการที่ยังไม่หมดอายุ

2.1 บัตรยังไม่หมดอายุ แต่ข้อมูลการจ่ายเบี้ยความพิการไม่ถูกต้อง

        • ให้ทำการแก้ไขข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเบี้ยความพิการของ อปท. กทม. และเมืองพัทยา ให้เรียบร้อยภายในวันที่กำหนด ดังนี้

จ่ายเงินครั้งแรกการจ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1ครั้ง 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ศ. 30 ส.ค. 67พ. 25 ก.ย. 67ศ. 27 ก.ย. 67จ. 21 ต.ค. 67พ. 30 ต.ค. 67พฤ. 21 พ.ย. 67พฤ. 28 พ.ย. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67

 

2.2 บัตรยังไม่หมดอายุ แต่ไม่มีข้อมูลการจ่ายเบี้ยความพิการ ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อด้านล่างนี้ ภายในวันที่กำหนด

        • 2.2.1 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ

จ่ายเงินครั้งแรกการจ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1ครั้ง 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
อา.22 ก.ย. 67พ. 25 ก.ย. 67ศ. 18 ต.ค. 67จ. 21 ต.ค. 67จ. 18 พ.ย. 67พฤ. 21 พ.ย. 67จ. 16 ธ.ค. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67

.

        • 2.2.2 ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการ ต่อ อปท. กทม. และเมืองพัทยา ที่ต้นมีภูมิลำเนาให้เรียบร้อยภายในวันที่กำหนด ดังนี้

จ่ายเงินครั้งแรกการจ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1ครั้ง 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ศ. 30 ส.ค. 67พ. 25 ก.ย. 67ศ. 27 ก.ย. 67จ. 21 ต.ค. 67พ. 30 ต.ค. 67พฤ. 21 พ.ย. 67พฤ. 28 พ.ย. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67


หมายเหตุ
ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง

3. บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือมีแต่ไม่ได้ยืนยันตน (e-KYC) หรือยืนยันตนหลัง 31 ส.ค. 67

3.1 บัตรหมดอายุ แต่มีข้อมูลการรับเบี้ยความพิการ

        • ดำเนินการต่ออายุบัตร/ทำบัตรฯ ภายในวันที่กำหนด ดังนี้

จ่ายเงินครั้งแรกการจ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1ครั้ง 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
พฤ. 12 ก.ย. 67พ. 25 ก.ย. 67พฤ. 10 ต.ค. 67จ. 21 ต.ค. 67อ. 12 พ.ย. 67พฤ. 21 พ.ย. 67อ. 3 ธ.ค. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67

 

3.2 บัตรหมดอายุ และไม่มีข้อมูลการรับเบี้ยความพิการ ต้องดำเนินการ 2 ขั้นตอน ดังนี้

        • ขั้นตอนที่ 1 ต่ออายุบัตร/ทำบัตรประจำตัวผู้พิการ

จ่ายเงินครั้งแรกการจ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1ครั้ง 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
พฤ. 12 ก.ย. 67พ. 25 ก.ย. 67พฤ. 10 ต.ค. 67จ. 21 ต.ค. 67อ. 12 พ.ย. 67พฤ. 21 พ.ย. 67อ. 3 ธ.ค. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67

 

        • ขั้นตอนที่ 2 ให้เลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่าง

          • ขั้นตอน 2.1 ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ

จ่ายเงินครั้งแรกการจ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1ครั้ง 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
อา.22 ก.ย. 67พ. 25 ก.ย. 67ศ. 18 ต.ค. 67จ. 21 ต.ค. 67จ. 18 พ.ย. 67พฤ. 21 พ.ย. 67จ. 16 ธ.ค. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67

.

          • ขั้นตอน 2.2 ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการ ต่อ อปท. กทม. และเมืองพัทยา ที่ต้นมีภูมิลำเนาให้เรียบร้อยภายในวันที่กำหนด

จ่ายเงินครั้งแรกการจ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1ครั้ง 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ศ. 30 ส.ค. 67พ. 25 ก.ย. 67ศ. 27 ก.ย. 67จ. 21 ต.ค. 67พ. 30 ต.ค. 67พฤ. 21 พ.ย. 67พฤ. 28 พ.ย. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67


หมายเหตุ
ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง

4. ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. พม. แต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ

    • ดำเนินการทำบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่กำหนด ดังนี้

จ่ายเงินครั้งแรกการจ่ายเงินซ้ำ
ครั้งที่ 1ครั้ง 2ครั้งที่ 3
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
ดำเนินการภายในวันที่
จ่ายเงิน
พฤ. 12 ก.ย. 67พ. 25 ก.ย. 67พฤ. 10 ต.ค. 67จ. 21 ต.ค. 67อ. 12 พ.ย. 67พฤ. 21 พ.ย. 67อ. 3 ธ.ค. 67พฤ. 19 ธ.ค. 67


หมายเหตุ
ข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง

คำแนะนำในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ได้รับเงินจากภาครัฐ

** ต้องดำเนินการให้ทันตามกำหนดเวลา มิฉะนั้นอาจไม่ได้รับเงินจากโครงการ **

1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือคนพิการที่เข้าข่ายได้รับโอนเงินทางบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน

    • กรณีไม่เคยมีอยู่ ให้เร่งติดต่อธนาคารที่มีบัญชีเงินฝากเพื่อผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน โดยต้องดำเนินการให้แล้วโดยเร็ว หรือภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2567
    • หากกรณีมีอยู่แล้ว โปรดตรวจสอบว่าบัญชีดังกล่าวยังมีสถานะที่รับเงินได้ตามปกติหรือไม่ (สถานะ active) และต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หรือภายในวันที่ 17 ธันวาคม 2567

2. กรณีคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการแต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ และคนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ

    • ให้ติดต่อยื่นขอมีบัตรหรือขอต่ออายุบัตรโดยเร็ว หรือภายในวันที่ 3 ธ.ค. 2567 

(2.1) ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการเพื่อยืนยันตัวตน ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ

      • ตั้งแต่วันจันทร์ – วัน ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
      • เอกสารหลักฐาน ดังนี้
        – 
        บัตรประจำตัวประชาชน/สูติบัตรสำหรับบุคคลอายุต่ำกว่าสิบห้าปี 
        –  ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี) 
        –  รูปถ่ายคนพิการ ขนาด 1 นิ้ว (กรณีที่ไม่ได้มายื่นด้วยตนเอง) 
        –  เอกสารรับรองความพิการ (กรณีที่พิการเชิงประจักษ์ตามประกาศฯ ไม่ต้องใช้เอกสารรับรองความพิการ)
        –  หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี) 

หมายเหตุ: กรณีคนพิการที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการแต่ไม่มีในฐานข้อมูลของ พก. อาจเกิดจากเป็นคนพิการ ที่ใช้บัตรประจำตัวคนพิการแบบเก่า (แบบเล่ม) และไม่ได้มีการยื่นเพื่อลงทะเบียนในระบบ) 

(2.2) ต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ

      • ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่าง เวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
      • เอกสารหลักฐาน ดังนี้
        –  บัตรประชาชน 
        –  ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
        –  บัตรประจำตัวคนพิการใบเดิม 
        –  เอกสารรับรองความพิการ (กรณีมีความพิการเพิ่มหรือเปลี่ยนไปจากเดิม) 
        –  หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี) 

☎️ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอมีบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ

    • โทรศัพท์สายด่วน  พม. โทร. 1300
    • กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)
      หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388 ต่อ 701 – 702

การตรวจสอบสิทธิและตรวจสอบผลการรับโอนเงิน

กำหนดการตรวจสอบสิทธิและตรวจสอบผลการรับโอนเงิน

ตรวจสอบสิทธิ

    • ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

ตรวจสอบผลการโอนเงิน

    • สามารถตรวจสอบผลการโอนในวันถัดไปหลังจากวันที่กำหนดโอนเงิน

ช่องทางตรวจสอบของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1. เว็บไซต์

2. แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)

3. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

    • ☎️ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345
    • ⏰ ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

4. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

    • ☎️ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ หมายเลขโทรศัพท์ 02 109 2345 กด 1 กด 5
    • ⏰ ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

5. Call Center กรมบัญชีกลาง

    • ☎️ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400
    • ⏰ ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ช่องทางตรวจสอบของคนพิการ

1. เว็บไซต์

2. แอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง)

3. ศูนย์ช่วยเหลือสังคม

    • สายด่วน ☎️ 1300

4. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)

    • ☎️ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388 ต่อ 701 – 702

5. ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ

6. อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ

    • ⏰ ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

    • ☎️ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2109 2345
    • ⏰ ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

2. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

    •  ☎️ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ หมายเลขโทรศัพท์ 02 109 2345 กด 1 กด 5
    • ⏰ ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

3. Call Center กรมบัญชีกลาง

    • ☎️ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400
    • ⏰ ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

คนพิการ

1. ศูนย์ช่วยเหลือสังคม

    • สายด่วน ☎️ 1300

2. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ)

    • ☎️ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 3388 ต่อ 701 – 702

3. ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ

4. อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ

    • ⏰ ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Infographic

ข่าวโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ฯ

ถาม-ตอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

ข้อมูลทั่วไป

  • ประเมินว่าการดำเนินโครงการจะส่งผลให้เศรษฐกิจ (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ: GDP) ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ ร้อยละ 0.35 ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ
  • ขณะนี้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มที่เปราะบาง 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ  ก่อนเป็นอันดับแรก
  • อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังมีนโยบายที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อไป ตามที่ได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาไว้ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยจะมีการนำฐานข้อมูลของผู้ลงทะเบียนโครงการเติมเงิน  10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐมาใช้ต่อ 
  • ในการนี้ จึงขอให้รอติดตามข่าวสารเพื่อรับทราบความคืบหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจากรัฐบาลต่อไป
  • หากเตรียมความพร้อมเพื่อรับเงินโอนเรียบร้อยตามที่กำหนดแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินเข้าบัญชีในรอบการโอนเงินซ้ำ  (Retry) รอบถัดไป
  • อาจเป็นเพราะดำเนินการไม่ทันรอบการนำส่งข้อมูลที่หน่วยงานต้นทางต้องนำส่งข้อมูลมาให้กรมบัญชีกลาง ใช้เตรียมการจ่ายเงิน ทำให้ต้องรอการโอนเงินซ้ำในรอบถัดไปเท่านั้น

** ต้องรอประกาศจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง **

  • หากกระทรวงการคลังมีมาตรการหรือโครงการที่ชัดเจนที่จะต้องโอนเงินสวัสดิการให้บุคคลล้มละลายที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการ
  • บุคคลล้มละลายที่ได้รับสิทธิตามโครงการ จะต้องติดต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ สำนักงานบังคับคดี เพื่อขอเปิดบัญชีเงินฝากสำหรับการรับเงินสวัสดิการตามโครงการต่อไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 67 (1) และมาตรา 67 (2) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

 ติดต่อกรมบังคับคดี

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

  • ไม่ได้รับสิทธิ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ได้รับสิทธิจะต้องอยู่ในฐานข้อมูลโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ของกระทรวงการคลัง ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567

สามารถเปลี่ยนบัญชีเงินฝากธนาคารได้ที่สานักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง แต่ต้องก่อนรอบการจ่ายเงินซ้ำ (แต่ละครั้ง)

  • ครั้งที่ 1 เดือนตุลาคม 2567 ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567
  • ครั้งที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2567 ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567
  • ครั้งที่ 3 เดือนธันวาคม 2567 ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567
  • การจ่ายเงิน รอบปกติ
    • เดือนกันยายน 2567 จะต้องยื่นหนังสือให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567
  • การจ่ายเงินซ้ำ (แต่ละครั้ง)
    • ครั้งที่ 1 เดือนตุลาคม 2567
      ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567
    • ครั้งที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2567
      ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567
    • ครั้งที่ 3 เดือนธันวาคม 2567
      ยื่นขอแก้ไขหนังสือการให้ความยินยอมฯ ภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567

คนพิการ

  • สามารถทำได้ แต่เงินที่จะได้รับ 10,000 บาท นั้นจะถูกโอนไปยังผู้ดูแลเดิมหรือบัญชีเดิมที่รับอยู่ก่อนหน้านี้
    ** ยึดข้อมูลการโอนเงิน ณ วันที่ 10 ก.ย.67

สามารถเปลี่ยนได้ แต่เงินที่จะได้รับ 10,000 บาท นั้นจะถูกโอนไปยังช่องทางเดิมที่ได้รับอยู่ก่อนหน้านี้ (ยึดข้อมูลช่องทางการโอนเงิน ณ วันที่ 10 ก.ย.67)

  • เงิน 10,000 บาท จะเข้าผ่านบัญชีผู้ดูแลคนพิการ
  • หากประชาชนไม่ประสงค์รับ 10,000 ผ่าน บัญชีผู้ดูแลคนพิการ
    – 
    ให้ไปดำเนินการปิดบัญชีธนาคารผู้ดูแล ก่อนวันที่ 25 กันยายน 2567 (เพื่อตัดช่องทางการรับเงิน)
    –  จากนั้นให้ผู้พิการไปแจ้ง อปท. เพื่อเปลี่ยนช่องทางการรับเงิน 10,000 บาท แล้วจะได้รับในรอบถัดไป

หมายเหตุ กรณีปิดบัญชีธนาคารผู้ดูแล ผู้พิการและผู้ดูแลต้องตกลงกันได้และปิดบัญชีธนาคารผู้ดูแล ก่อนวันที่ 25 กันยายน 2567

  • ต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายใน 3 ธ.ค. 2567
  • ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
    ตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่าง เวลา 08.30 น. – 16.30 น.
    ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
  • เอกสารหลักฐาน ดังนี้
    • บัตรประชาชน 
    • ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
    • บัตรประจำตัวคนพิการใบเดิม 
    • เอกสารรับรองความพิการ (กรณีมีความพิการเพิ่มหรือเปลี่ยนไปจากเดิม) 
    • หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี)
  • ได้ แต่ต้องยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการเพื่อยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 3 ธ.ค. 2567
  • ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
    ตั้งแต่วันจันทร์ – วัน ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น.
    ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
  • เอกสารหลักฐาน ดังนี้
    • บัตรประจำตัวประชาชน/สูติบัตรสำหรับบุคคลอายุต่ำกว่าสิบห้าปี 
    • ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี) 
    • รูปถ่ายคนพิการ ขนาด 1 นิ้ว (กรณีที่ไม่ได้มายื่นด้วยตนเอง) 
    • เอกสารรับรองความพิการ (กรณีที่พิการเชิงประจักษ์ตามประกาศฯ ไม่ต้องใช้เอกสารรับรองความพิการ)
    • หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล (ถ้ามี)
  • กรณีขึ้นทะเบียนคนพิการหลังวันที่ 31 ส.ค. 67 เป็นต้นไป
    จะไม่ได้รับเงิน 1 หมื่นของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ในรอบนี้
  • ให้รอในรอบโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเลต
    (หากยังไม่ได้ลงทะเบียนในรอบแรก ให้รอรอบไม่มีสมาท์โฟน)

โครงการนี้ ไม่รวมถึงผู้ที่มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องจากได้รับการดูแลค่าใช้จ่ายจากรัฐอย่างครอบคลุมแล้ว

  • จะได้รับผ่านช่องทางเดิม คือ อปท. กทม. และเมืองพัทยา ที่ผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการ
  • ไม่ได้รับสิทธิ คนพิการที่ได้รับสิทธิจะต้องอยู่ในฐานข้อมูลของ พก พม. ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567
  • ได้รับสิทธิของคนพิการการตามบัญชีเบี้ยที่คนพิการมอบอำนาจ และได้รับสิทธิของตนเอง
  • หากดำเนินการแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินเข้าบัญชีให้รอในรอบการโอนเงินซ้้า (Retry) รอบถัดไป
  • อาจเป็นเพราะดำเนินการไม่ทันรอบการนำส่งข้อมูลที่หน่วยงานต้นทางต้องนำส่งข้อมูลมาให้กรมบัญชีกลาง ใช้เตรียมการจ่ายเงิน ทำให้ต้องรอการโอนเงินซ้ำในรอบถัดไปเท่านั้น
  • แจ้งศูนย์บริการคนพิการจังหวัดหรือ อปท. เพื่อให้ความช่วยเหลือในการออกบัตรประจำตัวคนพิการ
  • ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ตามเงื่อนไข ที่กำหนด ดังนี้
    • ช่องทางเดิมในการรับเบี้ยความพิการ
    • ช่องทางสวัสดิการแห่งรัฐ
    • ช่องทางพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจ้าตัวประชาชนของคนพิการ
  • ได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกด้วยเลขประจำตัวประชาชน หากคนพิการมีพร้อมเพย์ที่ผูกด้วยเลขประจำตัวประชาชนขอให้ตรวจสอบว่าบัญชีพร้อมเพย์ยังสามารถใช้งานได้ เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะได้จ่ายเงินผ่านพร้อมเพย์ แต่หากคนพิการยังไม่เคยมีพร้อมเพย์มาก่อน ขอให้เปิดบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกด้วยเลขประจ้าตัวประชาชน

บัญชีเงินฝากธนาคาร/พร้อมเพย์

เจ้าของบัญชีสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สาขาเจ้าของบัญชี หรือต่างสาขาได้ทุกสาขา และหมายเลข โทรศัพท์ของแต่ละธนาคาร

  • ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ 
  • ต้องเป็นบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น
  • กรณีสมัครบริการพร้อมเพย์จากหมายเลขโทรศัพท์ไว้ ไม่จำเป็นต้องยกเลิก สามารถสมัครบริการพร้อมเพย์จากบัตรประชาชนเพิ่มได้
  • บัญชีเงินฝากสามารถสมัครบริการพร้อมเพย์ได้ 4 ID คือ 1 หมายเลข บัตรประชาชนและ 3 หมายเลขโทรศัพท์

สามารถสมัครบริการพร้อมเพย์ได้แก่

  1. สาขาธนาคาร
  2. ตู้ ATM/ADM
  3. แอปพลิเคชันของธนาคาร
  4. ช่องทางอื่น ๆ ที่แต่ละธนาคารกำหนด

สอบถามได้ที่

  • สาขาธนาคารเจ้าของบัญชีที่สมัครพร้อมเพย์/ต่างสาขาได้ทุกสาขา
  • Contact Center/Call Center ของแต่ละธนาคาร
  • ติดต่อสาขาธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ เพื่อเปิดบัญชีใหม่ และสมัครบริการพร้อมเพย์ใหม

สามารถใช้บริการของธนาคารตามช่องทาง เช่น

  1. สาขาธนาคารทุกสาขา
  2. ตู้ ATM/ADM
  3. Contact Center/Call Center

Last Update 21 กันยายน 2567 14.19 น.

ที่มา