กรมบัญชีกลาง อนุมัติให้สถานพยาบาลที่ส่งเบิกล่าช้า ทั้งผู้ป่วยใน-นอก ส่งเบิกใหม่ได้

กรมบัญชีกลาง อนุมัติให้สถานพยาบาลที่ส่งเบิกล่าช้า ทั้งผู้ป่วยใน-นอก ส่งเบิกใหม่ได้

          กรมบัญชีกลาง อนุมัติให้สถานพยาบาลราชการที่ส่งข้อมูลเบิกค่ารักษาล่าช้า ทั้งกรณีผู้ป่วยใน – ผู้ป่วยนอก ส่งเบิกใหม่ได้อีกครั้ง เพื่อลดผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของสถานพยาบาล


 

          นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง “การเร่งรัดการส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและประเภทผู้ป่วยในของสถานพยาบาลของทางราชการ” ถึง ผู้อำนวยการสถานพยาบาลของทางราชการ ลงวันที่ 16 ต.ค. 2567

          สำหรับสาระสำคัญของหนังสือฉบับดังกล่าวระบุว่า กรมบัญชีกลางได้รับรายงานจากหน่วยงานที่กรมบัญชีกลางมอบหมายให้รับส่งข้อมูลจากสถานพยาบาลของทางราชการเพื่อขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในว่า มีสถานพยาบาลมากกว่า 200 แห่ง ส่งข้อมูลประเภทผู้ป่วยในตามข้อกำหนดรูปแบบใหม่ในระบบ CIPN ล่าช้าเกินกว่าระยะที่กรมบัญชีกลางกำหนด (1 ปี) ทั้งกรณีที่ข้อมูลผ่านการตรวจสอบและยังไม่ผ่านการตรวจสอบ ส่งผลให้สถานพยาบาลไม่ได้รับค่ารักษาพยาบาลดังกล่าว

          ประกอบกับ กรมบัญชีกลางได้รับหนังสือจากสถานพยาบาลเพื่อขออนุมัติส่งข้อมูลสำหรับการเบิกค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกของผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่เข้ารับบริการในปีงบประมาณ 2565 – 2566 โดยชี้แจงเหตุผลถึงข้อขัดข้องในการส่งข้อมูลล่าช้า ซึ่งค่ารักษาพยาบาลที่ส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกไม่ทันอาจส่งผลทำให้สถานพยาบาลเกิดปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่องด้านการเงิน

          ดังนั้น เพื่อให้สถานพยาบาลที่ส่งข้อมูลขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลล่าช้าเกิน 1 ปี ได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลและลดปัญหาการขาดสภาพคล่องของสถานพยาบาลในคราวเดียวกัน จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 18, 23 ,27 และ 30 ของหลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าด้วยวิธีการเบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 อนุมัติให้สถานพยาบาลดำเนินการส่งข้อมูลขอเบิกค่ารักษาพยาบาลไปยังหน่วยงานที่กรมบัญชีกลางมอบหมาย (สำนักสารสนเทศบริการสุขภาพ หรือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ได้

ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด คือ

1. ค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยในที่จำหน่ายออกจากสถานพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 (วันเริ่มรับข้อมูลประเภทผู้ป่วยในตามข้อกำหนดรูปแบบใหม่ในระบบ CIPN) ซึ่งสถานพยาบาลเคยส่งข้อมูลแล้วแต่ไม่ผ่านการตรวจสอบ (ติด C) และมีระยะเวลาเกิน 1 ปี ให้สถานพยาบาลดำเนินแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

          รวมถึงส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลกับกรมบัญชีกลางให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย. 2568 โดยให้ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามหลักการที่กำหนดไว้ หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว สถานพยาบาลจะไม่สามรถส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกเงินกับกรมบัญชีกลางได้และกรมบัญชีกลางจะไม่รับพิจารณาคำขออนุมัติทุกกรณี

2. ค่ารักษาพยาบาลของประเภทผู้ป่วยนอก ให้ถือปฏิบัติดังนี้

          2.1 ค่ารักษาพยาบาลปีงบประมาณ 2565 – ปีงบประมาณ 2566 ซึ่งมีตัวเลข Approval Code อ้างอิงการทำธุรกรรมเบิกจ่ายตรงที่สถานพยาบาลส่งเบิกข้อมูลแล้วไม่ผ่านการตรวจสอบ (ติด C) หรือยังมิได้ดำเนินการส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกค่ารักษาพยาบาล และมีระยะเวลาเกิน 1 ปี ให้สถานพยาบาลดำเนินการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง และส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลกับกรมบัญชีกลางให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ก.ค. 2568 โดยยกเว้นให้ไม่ต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติฯ ข้อ 11 ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 04166.4/ว 143 ลงวันที่ 19 มี.ค. 2561 และหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว สถานพยาบาลจะไม่สามารถส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกเงินกับกรมบัญชีกลางได้ และกรมบัญชีกลางจะไม่รับพิจารณาคำขออนุมัติทุกกรณี

          2.2 ค่ารักษาพยาบาลปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมีเลข Approval Code อ้างอิงการทำธุรกรรมเบิกจ่ายตรงแล้ว ให้สถานพยาบาลเร่งดำเนินการส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกค่ารักษาพยาบาล หากสถานพยาบาลส่งข้อมูลไม่ผ่านการตรวจสอบ และมีระยะเวลาเกิน 1 ปี ให้ขยายระยะเวลาการส่งข้อมูลออกไปอีก 6 เดือน นับถัดจากวันที่ครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี โดยยกเว้นให้ไม่ต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติฯ ข้อ 11 ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 04166.4/ว 143 ลงวันที่ 19 มี.ค. 2561 หากพ้นระยะเวลาที่ขยายดังกล่าว สถานพยาบาลจะไม่สามารถส่งข้อมูลเพื่อขอเบิกเงินกับกรมบัญชีกลางได้

          ส่วนในกรณีธุรกรรมตามข้อ 2.1 และ 2.2 ที่ไม่สามารถใช้เลข Approval Code เดิมได้ ให้ใช้เลขที่หนังสือเวียนฉบับนี้แทนเลข Approval Code เดิม

 


 

ที่มา : https://www.thecoverage.info/news/content/7583