กระทรวงแรงงาน จัดงบ 50 ล้านบาท ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ ช่วยลูกจ้างนายจ้าง

กระทรวงแรงงาน จัดงบ 50 ล้านบาท ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ ช่วยลูกจ้างนายจ้าง

           กระทรวงแรงงาน จัดทำโครงการเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด 19 โดยมีวงเงินงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการหรือรัฐวิสาหกิจสหกรณ์ออมทรัพย์ในรัฐวิสาหกิจสามารถยื่นคำขอกู้เงินเพื่อนำไปให้บริการเงินกู้แก่ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ไม่เกินแห่งละ 10 ล้านบาท สามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2564



           นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ใช้แรงงานและสถานประกอบกิจการในทุกภาคส่วนของประเทศ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน จึงสั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หาแนวทางในการดำเนินการดังกล่าว โดยขณะนี้คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ได้มีมติเห็นชอบโครงการเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการหรือรัฐวิสาหกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุกดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปเสริมสภาพคล่องสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตลอดจนสามารถนำไปพัฒนารายได้ของตนเองและครอบครัวได้

           ด้านนายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเสริมว่า กองทุน เพื่อผู้ใช้แรงงาน ได้จัดทำโครงการเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด 19 โดยมีวงเงินงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการหรือรัฐวิสาหกิจสหกรณ์ออมทรัพย์ในรัฐวิสาหกิจสามารถยื่นคำขอกู้เงินเพื่อนำไปให้บริการเงินกู้แก่ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ไม่เกินแห่งละ 10 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อปี ระยะเวลาการส่งชำระคืนสูงสุดไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน และผ่อนส่งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเงินกู้เป็นงวดรายเดือน โดยมีเงื่อนไขว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องคิดดอกเบี้ยเงินกู้จากสมาชิกต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติประเภทสามัญ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.75 ต่อปี ทั้งนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 กรกฎาคม 2564 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2246 0383 หรือ 0 2248 6684

 


 

ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210204094619114